ในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้หญิงที่น่าอิจฉามากที่สุดในโลก คงหนีไม่พ้นเจ้าหญิงแคทเธอรีน มิดเดิลตัน หญิงสาวสามัญชนที่ได้เข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งอังกฤษ ผู้เป็นที่หมายปองของหญิงสาวทั่วโลก
นางสาวแคทเธอรีน เอลิซาเบธ มิดเดิลตัน หรือเคท เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง ซึ่งนามสกุลของเธอซึ่งมีคำว่า "มิดเดิล" ก็เป็นเครื่องแสดงชนชั้นเช่นกัน พ่อแม่ของเธอ ไมเคิลและแครอล เคยทำงานในสายการบินบริทิช แอร์เวย์ส ก่อนที่จะลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว โดยเปิดบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์และของใช้สำหรับการจัดงานปาร์ตี้ ชื่อว่า ปาร์ตี้ พีซเซส (Party Pieces) ซึ่งขณะนี้มีมูลค่า 50 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท นอกจากนี้ เคทยังมีน้องสาวอีกหนึ่งคน คือ ฟิลลิปปา หรือปิ๊ปปา และน้องชายอีกหนึ่งคน ชื่อเจมส์
ด้านการศึกษา เคทสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาประวัติศาสตร์ศิลป์ จากมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ ในสกอตแลนด์ โดยมีผลการเรียนในระดับเกียรตินิยม และที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ส นี่เอง ที่ทำให้เคทได้พบกับเจ้าชายวิลเลียมเป็นครั้งแรก ขณะศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 2 ในปี 2544 และต่อมาในปี 2546 ทั้งคู่ก็เริ่มคบหาดูใจกัน
จนกระทั่งเดือนเมษายน ปี 2547 เจ้าชายวิลเลียมและเคทปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนพร้อมกันเป็นครั้งแรกที่คลอสเตอร์สกีรีสอร์ตในสวิสเซอร์แลนด์ จากนั้นมา สถานะแฟนสาวของเจ้าชายวิลเลียม ทำให้เคทถูกกองทัพนักข่าวและปาปารัสซีคุกคามชีวิตส่วนตัวของเธออย่างหนัก จนมีข่าวว่าเคทจะได้รับการคุ้มครองจากหน่วยรักษาความปลอดภัยของพระราชวงศ์ ซึ่งยิ่งทำให้ชาวอังกฤษคาดการณ์ไปต่างๆ นานาว่าเจ้าชายวิลเลียมกับเคทจะหมั้นกันในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ต้องแยกจากกันในปี 2550 เนื่องจากเจ้าชายวิลเลียมทรงเข้ารับราชการในกองทัพอังกฤษ แต่อีก 3 ปีต่อมา ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 เจ้าชายวิลเลียมและเคท มิดเดิลตัน ประกาศว่าทั้งคู่จะเข้าพิธีเสกสมรสกันในปี 2554 ซึ่งสำนักพระราชวังอังกฤษได้กำหนดให้พระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม กับนางสาวแคทเธอรีน มิดเดิลตัน มีขึ้นในวันที่ 29 เมษายน 2554 ที่วิหารเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน
นอกจากงานพระราชพิธีดังกล่าวจะได้รับการถ่ายทอดสดและแพร่ภาพไปทั่วโลก เนื่องจากพระราชพิธีเสกสมรสของทั้งสองได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกในฐานะกษัตริย์และพระราชินีในอนาคตของราชวงศ์อังกฤษ ยังได้สร้างปรากฏการณ์ความฝันอยากเป็นเจ้าหญิงให้แก่เด็กหญิงชาวอังกฤษจำนวนมาก โดยบริษัทของเล่นและของที่ระลึกหลายแห่งได้ผลิตของที่ระลึก ของเล่นและตุ๊กตาเจ้าหญิงเคทและเจ้าชายวิลเลียมผลิตออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก
ในพระราชพิธีเสกสมรส สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระราชทานพระอิสริยยศใหม่แก่เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงเคท โดยทั้งสองพระองค์ได้รับตำแหน่งดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เอิร์ลและเคาน์เทสแห่งสตราเธิร์น (Strathern) พระอิสริยยศในสกอตแลนด์ และบารอนและบารอนเนส คาร์ริกเฟอร์กัส (Carrickfergus) พระอิสริยยศในไอร์แลนด์เหนือ
นอกจากเชื้อสายสามัญชนแล้ว เจ้าหญิงเคทถูกตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสถานะในพระราชวงศ์อีกหลายประการ เช่น ทรงเข้าพิธีเสกสมรสกับรัชทายาทในวัย 29 ปี ซึ่งถือว่าอายุค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับพระชายาขององค์รัชทายาทพระองค์อื่นในราชวงศ์วินเซอร์ อย่างเจ้าหญิงไดอานา ซึ่งทรงเข้าพิธีเสกสมรสตั้งแต่พระชันษา 20 ปี นอกจากนี้ ยังเป็นที่คาดการณ์กันว่า เจ้าหญิงเคทจะได้เป็นพระราชินีจากตระกูลสามัญชนเป็นพระองค์แรกในอังกฤษ เพราะเจ้าหญิงเคทเป็นพระชายารัชทายาทและพระราชินีในอนาคตของอังกฤษพระองค์แรกที่ไม่มีเชื้อสายเกี่ยวข้องกับพระราชวงศ์หรือแม้กระทั่งตระกูลขุนนางเลย
หลังพระราชพิธีเสกสมรส เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคททรงปฏิบัติพระกรณียกิจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น ทรงพบกับนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสด็จเยือนนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา รวมทั้งเสด็จเยือนแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ เนื่องในโอกาสวันชาติแคนาดา
ด้านงานการกุศล ทั้งสองพระองค์เสด็จไปช่วยเหลือองค์กรการกุศลต่างๆ มากมาย เช่น ศูนย์ช่วยเหลือเด็กยากไร้ในแอฟริกาตะวันตกของยูนิเซฟ ตลอดจนเสด็จไปร่วมชมคอนเสิร์ตการกุศลเพื่อหารายได้มูลนิธิเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าแฮรี่ งานมอบรางวัลเดอะซันมิลิทารีให้กับทหารอังกฤษ ล่าสุดดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ รวมทั้งเจ้าชายแฮรี่ทรงรับเป็นทูตพิเศษให้กับทีมชาติอังกฤษเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาทีมอังกฤษชุดที่จะลงแข่งขันในโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ลอนดอน
Produced by VoiceTV