สคบ.เผยผลวิเคราะห์ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ พบมีสารเอทิลอาซีเทต จัดเป็น สารระเหย ห้ามขายฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการการคุ้มครองผู้บริโภคประกาศให้ 'ลูกโป่งวิทยาศาสตร์' หรือ 'ลูกโป่งพลาสติก' หรือ 'Blowing balloon' เป็นสินค้าอันตรายต่อชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็ก เพราะมองว่าเป็นของเล่นที่มีมานาน ทำให้มองข้ามถึงพิษภัยและปัญหาที่จะส่งผลกระทบกับร่างกายของเด็กในระยะยาว โดย สคบ. ได้ส่งตัวอย่างสินค้าที่ตรวจพบไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทำการตรวจสอบวิเคราะห์ส่วนประกอบ พบว่าในลูกโป่งวิทยาศาสตร์มีสารเอทิลอาซีเทต ซึ่งจัดเป็น สารระเหย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ส่งผลให้ ลูกโป่งวิทยาศาสตร์ หรือลูกโป่งพลาสติก จัดอยู่ในประเภทสารระเหย ที่นับเป็นยาเสพติด สูดดมสาระเหยทำให้เกิดอันตรายต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย เพราะของเล่นชนิดนี้ต้องเป่า ถ้าเป็นเด็กอาจมีการสูดดม หรือหายใจเข้าออกนำสารระเหยเข้าสู่ปอดได้หลายครั้ง ถือเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพสำหรับเด็กเล็กจนอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
ลักษณะการเกิดพิษจากสารระเหย มี 2 ลักษณะ ได้แก่ ชนิดที่เกิดพิษระยะเฉียบพลัน จะทำให้ผู้ได้รับสารระเหยชนิดนี้มีอาการร่าเริง ตื่นเต้น ต่อมาจะมีอาการคล้ายคนเมาสุรา พูดจาอ้อแอ้ ควบคุมตัวเองไม่ได้ มีอาการระคายเคืองต่อเยื่อบุภายในปากและจมูก มีน้ำลายไหลมาก มีผลกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางทำให้นอนไม่หลับ ต่อมาจะมีฤทธิ์กดทำให้ง่วงซึม หมดสติ ถ้าเสพขนาดสูง สารระเหยจะไปกดศูนย์หายใจ อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ยังพบอาการจาม ไอ คลื่นไส้ ท้องเสีย สั่นและชักแบบลมบ้าหมูและ ชนิดที่มีพิษระยะเรื้อรัง เกิดจากการสูดดมเป็นระยะเวลานาน จะทำให้อวัยวะในร่างกายเสื่อมสภาพ
สคบ.จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค สั่งห้ามขายลูกโป่งวิทยาศาสตร์ หรือลูกโป่งพลาสติกออก โดยผู้ฝ่าฝืนมีโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ถ้าเป็นผู้ผลิต หรือเป็นผู้สั่ง หรือนําเข้าเพื่อขาย มีโทษจําคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ หากผู้ใดพบการขาย หรือโฆษณาทางสื่อต่างๆ แจ้งได้ที่สายด่วน สคบ.1166 หรือ www.ocpb.go.th
ที่มาภาพ : มุมดีดี