พูดคุยกับเจ้าของเพจ 'Pixel Crazy 8bit สมาคมคนรัก8บิท' การสะท้อนเรื่องราวดราม่าสังคม ผ่านตัวการ์ตูน 8 บิทในรูปแบบที่เข้าใจง่าย บน 'พิกเซล' ไม่กี่จุด แต่ก็มีเรื่องราวที่น่าคิดแฝงอยู่ข้างใน

'Pixel Crazy 8bit สมาคมคนรัก8บิท' เพจเฟซบุ๊กการ์ตูนแนว 'Pixels Art' ที่นำเรื่องราวต่างๆของสังคมไม่ว่าจะเป็นบันเทิง การเมือง และเหตุการณ์รอบวัน มาทำเป็นตัวการ์ตูนรูปแบบ 8 บิทในมุมตลกขบขัน เสียดสีสังคม แต่สอดแทรกไปด้วยเนื้อหาชวนคิดที่ไม่ได้ชี้นำหรือไปตัดสินใคร จนมีผู้คนกดติดตามเพจแล้วกว่า 1.6 แสนคน (21ก.ย.58) 

นายนรุตม์ชัย ธนาพงศ์ศิรภัส (เจ) เจ้าของเพจ 'Pixel Crazy 8bit สมาคมคนรัก8บิท' เล่าว่า เพจนี้เปิดมาได้กว่า 3 ปีแล้ว โดยอดีตเป็นนักดีไซเนอร์เสื้อผ้า  และ Pixels Art บริษัทผลิตเกม และแอพพลิเคชั่นโทรศัทพ์มือถือ ยุคโนเกียครองเมือง ปัจจุบันทำธุรกิจส่วนตัวเปิดร้านล้อแม็กซ์ และยางรถยนต์ ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนบ้า 8 บิท พอมีเวลาว่างก็ใช้ความรู้ความสามารถที่เคยมีมาทำเพจโดยจับเอางานเก่าๆมาลงเพื่อหาว่ามีใครที่มีใจรักในงานแนว Pixels Art บ้าง เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน จากนั้นจึงเริ่มพัฒนาเป็นเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในรอบวัน 

คุณเจ เล่าว่า คอนเซ็ปต์ที่ต้องการให้คนเข้ามาดู เพื่อให้รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น เนื้อหาที่นำเสนอเป็นการนำประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคมช่วงนั้นมาดัดแปลงเป็นมุกตลก ล้อเลียน เนื่องจากปัจจุบันคนเราเจอแต่เรื่องเครียด จึงต้องการให้คนเข้ามาหัวเราะกับงานผลงานของเรา โดยใช้กระแสสังคมเล่าเป็นเรื่องราวต่างๆ ทำประเด็นที่เปิดช่องว่างให้คนได้คิด ซึ่งไม่ได้ไปตัดสินใครอะไรทั้งสิ้น

มีการทำการบ้านอย่างไร?

นอกจากการวาดภาพให้ออกมาเป็น Pixels Art แล้ว การหาข้อมูลก็เป็นเรื่องที่ไม่แพ้กัน คุณเจ บอกว่าจากการทำธุรกิจส่วนตัว ถ้าช่วงไหนไม่มีลูกค้าก็จะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นปกติทั้งวัน เช็คข่าวสารต่างๆทางอินเทอร์เน็ต การเข้าดูเพจต่างๆ เมื่อเห็นว่าเรื่องไหนน่าสนใจก็จะทำเป็นผลงานออกมา โดยเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่คุณเจอบอก ต้องมี 'หัวใจศิลปิน' จึงสามารถมองประเด็นต่างๆนำมาใส่เป็นมุกตลกได้

ทำไมต้องเล่าเรื่องราวโดยใช้สนามวิ่งแข่ง?

คุณเจ เล่าถึงแนวคิดการใช้สนามวิ่งแข่งและใช้นักวิ่งนั้น เพื่อรวบรวมเหตุการณ์ เพราะในแต่ละวันมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตลอดเวลา การที่สื่อนำเสนอข่าว อย่างข่าวที่เป็นประเด็นในสังคม คนก็จะเข้าไปรุมวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่พอมีกระแสอะไรเกิดขึ้นมาอีก เรื่องเก่าก็จะตกไปโดยปริยาย ทำให้เหมือนการวิ่งผลัดหรือส่งไม้ต่อกัน เป็นการวิ่งอยู่ในสนามของสังคม ที่มีทั้งคนเชียร์และดราม่าเกิดขึ้น ซึ่งจุดเริ่มต้นไม่ได้ตั้งใจทำให้เป็นเรื่องยาว แต่ผลตอบรับที่ดี มีลูกเพจเรียกร้องให้ทำอีกว่าในแต่ละช่วงมีนักวิ่งอะไรบ้าง โดยใช้เวลาว่างมอนิเตอร์เหตุการณ์ต่างๆ และทำภาพสรุปเป็นรายวัน พอครบ 1 เดือนก็จะมารวมกันเป็นเหตุการณ์เดียว

เมื่อดูในเพจจะพบว่ามีอีกชิ้นงานหนึ่งที่น่าสนใจคือการแซวเพจชื่อดังต่างๆในรูปแบบแผนที่ โดยคุณเจ ให้เหตุผลในชิ้นงานนี้ว่า เพราะแต่ละเพจมีความเป็นตัวตนของตนเอง โดยนำเรื่องราวของเพจต่างๆมาย่อสรุปเหมือนอยู่ในโลกใบเดียวกัน เมื่อจับมารวมกันและใส่เรื่องราวก็จะเป็นเรื่องแฟนตาซี

ทำไมต้องยก 'หม่อมฯสุขุมพันธุ์' เป็นขาประจำ

การนำหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม.มาแซวเป็นประจำ คุณเจ บอกเพราะเป็นบุคคลที่มีเอกลักษณ์สามารถมาทำเป็นเรื่องราวต่างๆได้ อีกทั้งเป็นความชอบส่วนตัว แม้จะเป็นบุคคลทางการเมืองก็ตาม แต่ก็จะเสนอเรื่องราวไม่ให้เกิดความขัดแย้ง โดยนำมาแซวในเรื่องที่ใกล้ตัวหรือบุคคลทั่วไปสนใจอย่างเรื่องน้ำท่วม เรื่องอุโมงค์ยักษ์ ในลักษณะหยอกล้อให้เกิดความน่ารัก เป็นแฟนตาซี เหมือนการหยิบยกคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี มาทำเป็นเรื่องราวที่เคยทำงาน

เคยเกิดดราม่าในเพจตัวเองหรือไม่?

คุณเจ บอกว่าดราม่าในเพจตัวเองนั้นไม่เคยมี เพราะคอนเซ็ปต์ของเพจจะเป็นกลางๆ แต่จะดูทุกคอมเม้น ติดตามความคิดเห็นองแฟนเพจ หากข้อความรุนแรงก็จะลบทิ้ง แต่ลูกเพจส่วนใหญ่จะมีแต่วัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ จะไม่ค่อยมีกลุ่มเกรียนเด็กๆเข้ามา เพราะอาจดูแล้วอาจไม่เข้าใจ

พิกเซลไม่กี่จุด แต่ก็มีเรื่องราวน่าคิดแฝงอยู่ข้างใน!

"พยายามแฝงเรื่องราวให้เค้าคิดว่าทำไมมันเป็นอย่างนี้ เหมือนที่เราเสพข่าวอยู่ทุกวัน บางทีเราก็ไม่พอใจกับข่าวนี้ว่าทำไมถึงไม่ได้รับความยุติธรรม เราก็จะสะท้อนมาในงานของเราซึ่งลึกๆจะมีความหมายอยู่แล้วในตัวมันเองทุกงาน ถึงเราจะไม่ได้ไปตัดสินใคร แต่ลึกๆทุกคนก็สามารถรู้ในสิ่งที่เราสื่อได้อยู่แล้ว ถ้าไม่ได้มองอย่างเผินๆ เอาฮา" คุณเจ กล่าว

คนส่วนใหญ่มอง 8 บิท เป็นการ์ตูนติ๊งต๊อง แต่ผมมองว่ามันคือ 'ศิลปะ' บน 'พิกเซล' ไม่กี่จุด

คุณเจเล่าว่า คนส่วนใหญ่จะมองว่า 8 บิทเป็นเพจเกมส์ติ๊งต๊อง โดยเราพิสูจน์ว่ามันไม่ใช่ อยากให้เห็นว่างานแนวPixels Art โตมาพร้อมกับเทคโนโลยี แต่พอยุคสมัยนี้ก็หลายมาเป็นศิลปะ โดยที่เราจะสื่อสารอย่างไรให้เห็นว่าเทคโนโลยีสมัยนั้นมีข้อดีอย่างไรด้วยพิกเซลไม่กี่จุด  แต่หากมองลึกจะเห็นว่ามีเนื้อหาที่แอบแฝงพร้อมมุกตลกที่เราสื่อไปอยู่แล้ว 

แต่หลายคนยังมีใจรักใน 8 บิท จนส่งข้อความมาให้ช่วยทำ

ส่วนกรณีที่คุณเจทำภาพ 8 บิทขายนั้นเกิดจากมีคนมาขอเยอะ แล้วทำให้ฟรี แต่พอมีคนมาขอเยอะมากจนทำไม่ทัน จนมีอีกเพจมมาให้คำแนะนำว่าทำไมไม่ทำขายไปเลย เพื่อสกีนคนที่ต้องการและมีใจรักใน 8 บิท จริงๆ โดยราคาที่คิดไม่ถือว่าแพง และไม่ได้มองในเรื่องรายได้จากการขายภาพ 8 บิทเพราะกิจการส่วนตัวที่ทำอยู่ก็สร้างรายได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ที่ทำเพื่อใจรัก ทำเพราะมีคนมาชอบในงานของเรา