แม้ภาพยนตร์ของ GTH จะประสบความสำเร็จทั้งรายได้และรางวัล แต่ที่จริง ภาพยนตร์ GTH คือภาพสะท้อนอุดมคติ และความคิดชนชั้นกลาง รวมทั้ง โครงสร้างการเก็บเงิน หรือแม้แต่การทำให้เชียงใหม่ไม่พัฒนา
สถาบันหนังไทย หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) จัดงานประชุมวิชาการด้านภาพยนตร์ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2558 โดยมีการศึกษาหัวข้อ "อัตลักษณ์ภาพยนตร์ไทยที่ผลิตโดยจีทีเอช" โดย ประกายกาวิล ศรีจินดา ระบุชัด "หากระบบโครงสร้างการเก็บเงินยังแบ่งออกเป็น Box-office กับ สายหนัง เชื่อว่า GTH ก็ยังคงจะสร้างภาพยนตร์ที่สะท้อนอุดมคติของชนชั้นกลางไทยต่อไป"
โดยวิเคราะห์อัตลักษณ์ภาพยนตร์ของ GTH สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ตระกูลคือ แนวผี-สยองขวัญ เน้นหนังผีแนวสืบสวน แต่ท้ายที่สุดก็กลับมาสู้ขนบความเป็นไทยคือ "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" ตัวละครส่วนใหญ่เป็นผีผู้หญิง จะตายด้วยความรัก และคนที่ฆ่ามักเป็นคนใกล้ตัว ซึ่งสะท้อนสำนวนที่ว่า "คนที่ไว้ใจร้ายที่สุด"
แนวตลก ไม่เล่าเรื่องเป็นเส้นตรง- ตัวละครหลักมักเป็นเด็กและวัยรุ่น ใช้พื้นที่ของเมืองเป็นหลัก ทั้งเมืองหลวง และหัวเมืองใหญ่ แนวโรแมนติก ไม่ค่อยให้คุณค่ากับรักแบบโรแมนติกในสมัยก่อน ตัวละครจะเป็นคนที่แปลกแยกจากคนในสังคม และปลีกย่อย มักต่อต้านทุนนิยมผ่านสัญลักษณ์ของภาพยนตร์ เช่น ระบบมหาวิทยาลัยในมหาลัยเหมือนแร่ หรือระบบ Entrance ของ Final score และ ตัวละครเป็นมนุษย์สีเทา
ทำให้อัตลักษณ์ของภาพยนตร์ไทยที่ผลิตโดย GTH คือ โครงเรื่องสมัยใหม่ ไม่เล่าเรื่องเป็นเส้นตรง มีการผสมผสานตระกูล จบลงด้วยความสุข ตัวละครส่วนใหญ่มีจิตใจดี ทัศนคติเป็นบวก แต่มักมีการเล่าผ่านมุมมองของตัวละครชาย มีการศึกษา และเป็นชนชั้นกลาง เพราะ เมืองคือพื้นที่ของคนสมัยใหม่"
และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ "การรื้อถอนความเป็นผู้หญิง" เพราะในอดีตผู้หญิงมักต้องเป็นเพศรักนวลสงวนตัว แต่ผู้หญิงในGTH นางเอกเป็นเมียน้อย นางเอกผ่านการแต่งงาน หรือนางเอกพูดเรื่องเซ็กส์ได้ตลอดเวลา แต่ท้ายที่สุดหนังโดย GTH ก็ยังคงสะท้อนภาพของของอุดมคติชนชั้นกลางไทยนั่นเอง
โดยตัวแปรในการประกอบสร้างอัตลักษณ์ของภาพยนตร์ไทยที่ผลิตโดย GTH ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ระบบโครงสร้างของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ที่ผู้สร้างหรือผู้ผลิตจะมีรายได้ 2 ส่วน คือ Box office หรือ แบ่งรายได้กันกับผู้ผลิตคนละครึ่งหรือ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยจะมาจากรายได้ในกรุงเทพ และปริมณฑลฯ เท่านั้น และส่วนที่สอง สายหนัง ผู้ผลิตจะได้เพียง 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสะท้อนว่ารายได้มากจากคนเมืองเป็นหลัก
ปัจจุบันและในอนาคต GTH จะสร้างภาพยนตร์ที่อิงทุนทางเศรษฐกิจ หรือพูดง่ายๆคือ ทำเงิน มากกว่าที่จะทำหนังที่เป็นทุนสัญลักษณ์ และ GTH จะยังคงสร้างภาพยนตร์ที่สะท้อนอุดมคติของชนชั้นกลางไทยต่อไป
นอกจากนี้ มีการศึกษาหัวข้อ "เชียงใหม่" กับมายาคติในภาพยนตร์ โดย ณัฐกร วิทิตานนท์ ที่ระบุว่า ภาพยนตร์หลายเรื่องที่สร้างมายาคติ ทำให้เชียงใหม่ไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง แต่ถูกทำให้เป็นคนอื่นอยู่เสมอ อย่าง "เพื่อนสนิท" ที่ถ่ายในเชียงใหม่ เป็นการตอกย้ำภาพของเชียงใหม่ที่ห่างไกลจากความจริงอยู่มาก เพราะเป็นเพียงการทำให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่น่าอยู่และอากาศดี ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริง เพราะเชียงใหม่กำลังเป็นเมืองที่มีปัญหามากมาย