ไม่พบผลการค้นหา
สังคมโลกกำลังเฝ้ามอง “คนแก่” ติดคุก จากความผิด ในคดีส่งข้อความผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ แล้วถูกตัดสินว่าส่งข้อความหมิ่นสถาบัน ต้องโทษนอนคุก 20 ปี

สังคมโลกกำลังเฝ้ามอง “คนแก่” ติดคุก จากความผิด ในคดีส่งข้อความผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ แล้วถูกตัดสินว่าส่งข้อความหมิ่นสถาบัน ต้องโทษนอนคุก 20 ปี 

 

หลังศาลมีคำพิพากษาตัดสิน ในคดีพิพากษาคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.311/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายอำพล ตั้งนพกุล อายุ 61 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(2),(3) ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร  

 

โดยคดีนี้ โจทก์ฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 9-22 พ.ค.53 จำเลยใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวพิมพ์ข้อความอันเป็นการจาบจ้วง ดูหมิ่นพระเกียรติยศ และหมิ่นประมาทใส่ความให้ร้ายเบื้องสูง แล้วส่งข้อความดังกล่าวไปยังโทรศัพท์มือถือของนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข เลขานุการส่วนตัวของนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งเป็นบุคคลที่สามเหตุเกิดที่แขวงสามเสนใน เขตพญาไท แขวงและเขตดุสิต กทม. , ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จ.สมุทรปราการ เกี่ยวพันกัน

 

ศาลฯ ตัดสินลงโทษ จำคุกจำเลยเป็นเวลา 5 ปี จำนวน 4 กระทง รวมจำคุกทั้งสิ้น 20 ปี

 

 

ซึ่งคดีดังกล่าว คำพิพากษาถือเป็นที่สุด แต่ก็ยังมีข้อถกเถียงกันในสังคม ว่า กรณีอากง เป็นผู้กระทำการด้วยรายละเอียดอย่างไร และมีความเกี่ยวพัน กับเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ปลายทางอย่างไร รวมทั้งในเรื่องของข้อสังเกตว่า ในข้อโต้แย้งทางคดี ที่ผู้ต้องหา พยายามสู้ในประเด็นที่ว่า “มือถือ” ไม่ได้อยู่กับตัวเอง และไม่ได้เป็นผู้ส่งข้อความ ด้วยตัวเองนั้น ที่มาที่ไปและการพิสูจน์ทราบเป็นอย่างไร

 

เป็นคำถามที่หลายคนคิดสงสัย กันอยู่

 

กรณี เทียบเคียงผู้ถูกกล่าวหา ในลักษณะคล้ายคลึงกัน น่าจะเทียบได้ในกรณีของ คดีที่พนักงานอัยการ สั่งฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นเบื้องสูง กรณีนำคำปราศรัยของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด ไปเผยแพร่ซ้ำ

 

โดยคดีนี้ ศาลประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.2066/2553 โดยศาลสอบถามนายสนธิ แล้ว ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับคดีหมายเลข อ.3323/2550 โดยมีคำฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2551 เวลากลางคืน จำเลยนี้ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้วยการกระจายเสียงทางเครื่องขยายเสียง ท่ามกลางประชาชนที่มาฟังจำนวนหลายคน มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และทางอินเตอร์เนต โดยผ่านทางเวปไซด์ของเอเอสทีวี ให้ประชาชนทั้งคนไทยและต่างชาติได้รับชมและรับฟังทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ 

 

มีข้อความซึ่งจำเลยนำเอาคำปราศรัยของนางสาวดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล (หรือ ดา ตอร์ปิโด)  ที่พูดบนเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวง อันเป็นการพูดที่มีถ้อยคำหมิ่นประมาท ดูหมิ่น  หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และกล่าวคำพูดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง

 

เหตุเกิดที่แขวง-เขตดุสิต  กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550  มาตรา 8  , ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

 

ทางฝ่ายผจำเลย มอบหมายนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ กรมธรรม์ประกันอิสร ภาพ มูลค่า 500,000 บาท ยื่นขอประกันตัว ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ประกันตัวนายสนธิ มูลค่า 500,000 บาท โดยศาลตีราคาประกัน 500,000 บาท

 

ขณะนี้คดี ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา บนชั้นศาล

 

คนหนึ่ง เป็นคนแก่ผมขาว ส่งเอสเอ็มเอส ไปยังบุคคลหนึ่ง ด้วยพฤติกรรมที่บอกว่าส่งซ้ำใน 4  ครั้ง จะข้อความเดียวกันหรือไม่ ยังไม่ชัดเจน วันนี้คดีตัดสินได้เสร็จสิ้นตามกระบวนการยุติธรรม

 

ส่วนคนหนึ่ง ชื่อเสียงโด่งดัง เอาเรื่องที่มีการตีตราแล้วว่าเป็นข้อความผิดกฎหมาย ไปพูดต่อในที่สาธารณะ มีคนฟังมากมาย ยังไม่รู้ว่า ตอนจบของเรื่องเป็นอย่างไร ได้สิทธิตามกฎหมาย ออกไปพิสูจน์ความจริงได้

 

เรื่องแบบนี้ กลายเป็นบทสะท้อน “อะไร” บางอย่าง ที่ฝังในระบบ “โครงสร้าง” ของสังคม พร้อมถามหาความ “เท่าเทียม”

 

คนหนึ่งคนมีค่าไม่เท่ากับ คนอีกหนึ่งคน ทั้งที่ทั้งสองคนอยู่ใต้กติกาเดียวกัน เป็นผู้เล่นในสนามเดียวกัน มีกรรมการที่มาจากหน่วยงานเดียวกัน

 

จนทำให้ สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรป มีความเป็นห่วง พร้อมออกมาย้ำ ถึงจุดยืนของสหภาพยุโรปที่ให้ความสำคัญกับการยึดมั่นในหลักนิติธรรม ประชาธิปไตย และการเคารพสิทธิมนุษยชน


สหภาพยุโรปขอสนับสนุนให้รัฐบาลไทยยึดมั่นในการนำหลักนิติธรรมนั้นไปปฏิบัติอย่างเหมาะสม และไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งสอดคล้องกับการสนับสนุนหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่รวมถึงเสรีภาพในการแสดงออกด้วย

 

 

มีความห่วงใยกันมาก แสดงว่ามีคนจับตากันอยู่

 

สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าในวันข้างหน้า ผลของเรื่องจะจบลงอย่างไร จะไปละม้ายกับคำกล่าวที่ว่าความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความอยุติธรรม”  (Justice delayed is justice denied.ก็ไม่มีใครหยั่งรู้

 

เรื่องเทียบเคียงใกล้ๆกัน ชอบใจ คอลัมน์ชักธงรบ เรื่องแบบอย่างจากน้ำ โดย “กิเลนประลองเชิง” หน้า 3 ไทยรัฐ ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 ลองหาอ่านกันดูนะ.

 

Produced by VoiceTV

Source : prachatalk.com (Image) 

 

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog