วันแม่แห่งชาติปีนี้ หลายแบรนด์สินค้าได้ออกภาพยนตร์โฆษณา ที่สะท้อนถึงความคิดของลูกและความห่วงใยของแม่ รวมทั้งบทบาทของแม่ยุคใหม่ และหลายเรื่องสร้างจากเรื่องจริง 
    
โฆษณา “The Waiters’ Mom พนักงานร้านอาหารก็มีแม่" เป็นโฆษณาที่มาจากเรื่องจริง โดยให้พนักงานบาร์บีคิวพลาซ่า ทำแบบสอบถามเกี่ยวกับแม่ เช่น เรื่องสุดท้ายที่คุยกับแม่ คือเรื่องอะไร  คุณหัวเราะกับแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่  คุณรู้ไหมว่าแม่ชอบกินอะไร หลายคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และ ทางร้านยังให้พนักงานพาแม่มาที่ร้านเพื่อทาน “มื้อที่ดีที่สุด” กับคุณแม่ของพวกเขา ที่มีผู้ชมมากกว่า 3 ล้านครั้ง 
    
ส่วนโฆษณาชุด "ทุกคำมีความหมาย" ของ CP เป็นโฆษณามีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่ทะเลาะกับแม่และหนีออกจากบ้าน จนเธอได้หยุดตรงหน้าร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่ง เธอหิวแต่ไม่มีเงิน แม่ค้าจึงเรียกเธอมานั่งและทำเมนูที่เธอชอบให้กิน ทำไมแม่ค้าถึงรู้ว่าเธอชอบเมนูนี้ แล้วจะรู้ว่าแม่รักคุณมากแค่ไหน
    
ต่อมาโฆษณาจำจนวันตาย ของ FNFoodbyme ที่ลูกอยากซื้อรองเท้าและอาหารให้แม่ แต่ไม่รู้ว่าแม่ใส่รองเท้าขนาดเท่าไหร่ และชอบทานอะไร  แต่แม่จดจำทุกเรื่องของเราได้ตั้งแต่เด็กจนโต และทำเพื่อเรา โดยโฆษณานี้ตั้งคำถามว่า วันแม่ปีนี้ ถึงเวลารึยัง ที่คุณจะจดจำเรื่องราว ของคนที่จดจำเรื่องราวของคุณมาตลอดชีวิต "แม่" 
    
ส่วนโฆษณาของทรูมูฟเอช ชุด จำได้ไหม...คุณกอดแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ที่ให้ลูกๆ มาพูดถึงความรู้สึกถึงแม่ และถามถึงกอดครั้งสุดท้ายที่กอดกับแม่ พร้อมทั้งให้ปิดตาและกอดกับแม่ เพื่อสัมผัสความอบอุ่นที่ไม่เหมือนใคร จากผู้หญิงที่รักคุณที่สุด ว่าคุณยังจำความรู้สึกนั้นได้อยู่หรือไม่
    
ส่วนโฆษณาของคนอร์ เมื่อปิ่นโตออกเดินทาง เป็นโฆษณาเรื่องราวของแม่ที่อยู่ห่างไกลจากลูก จึงทำอาหารใส่ปิ่นโตใส่ความรักส่งให้ลูกที่อยู่ห่างไกล แม่ได้ทำอาหารเมนูที่ลูกชอบพร้อมอัดคลิปวิดีโอบรรยายความรู้สึก ส่งรวมไปในปิ่นโต เมื่อลูกๆ ได้รับแล้วจะรู้สึกอย่างไร และแม่พูดอะไรกับลูก เพราะบางครั้งปิ่นโตก็ใส่ความรักของแม่มาด้วย 
    
โฆษณาต่อไปของเครื่องดื่มไมโล ชุด "หรือฉันเป็นแม่ที่แย่ที่สุด ?" ตั้งคำถามว่า “แม่ที่ดีต้องทำอย่างไร” สิ่งที่แม่ทำนั้นเป็นการหลอกลวงลูกหรือเปล่า ทำร้ายลูกหรือเปล่า ให้ลูกพยายามต่อสู้ และสรุปสุดท้ายว่า ฉันอาจไม่ใช่แม่ที่ดีที่สุด แต่แม่อยากให้ลูกชนะตัวเอง

ส่วนโฆษณา"แม่คนหนึ่งจะดูแลลูกได้ขนาดไหน" ของธนาคารกสิกรไทย  เล่าเรื่อง เวลาอดีตกับปัจจุบันของแม่ลูกคู่หนึ่ง เมื่อลูกไม่ได้สตินานถึง 2 ปี โดยที่ไม่รู้ว่าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่จากความฝันที่จะช่วยแม่ดำเนินธุรกิจร้านเสื้อผ้าส่งออกต้องหยุดชะงัก เหลือแม่เพียงคนเดียวที่ต้องคอยดูแลร้านและทำงานเพื่อหาค่ารักษาดูแล แม้ว่าร้านจะต้องพบกับปัญหาต่างๆ มากขึ้น แต่แม่ก็ยังคงดูแลไม่ทอดทิ้งลูก จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต