ทีมนักวิจัย พบแบคทีเรียและสาหร่ายจำนวนมากใต้ทะเลสาบน้ำเค็มเดดซี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเชื่อกันว่า ไม่มีสิ่งชีวิตใดสามารถดำรงชีวิตอยู่ในน้ำทะเลที่มีความเค็มมากขนาดนี้ได้
เดดซี เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูง ตั้งอยู่ระหว่างประเทศจอร์แดน เขตเวสท์แบงค์ และประเทศอิสราเอล ในระดับที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 400 เมตร ซึ่งถือเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของโลก
นักท่องเที่ยวจำนวนมากมุ่งหน้าไปยัง เดดซี หรือทะเลมรณะ เพราะเชื่อว่าการได้แช่น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ จะทำให้สุขภาพดีเนื่องจากน้ำอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ทีมนักวิจัยจากสถาบันแมกซ์ พลังค์ ในประเทศเยอรมนีได้เก็บตัวอย่างแบคทีเรียจากก้นทะเลลึกนำไปศึกษา
แดนนี โลเนสคิว หัวหน้าทีมนักวิจัยบอกว่า ทีมงานรู้สึกประหลาดใจที่พบสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นแบคทีเรียและสาหร่ายจำนวนมากใต้ทะเล สิ่งที่น่าใจคือ สิ่งชีวิตเหล่านี้ไม่เหมือนกับสิ่งมีชีวิตที่พวกเขาเคยพบเวลาที่ฝนตกในเดดซี หรือในช่วงที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
สาเหตุที่ผู้คนเรียกทะเลสาบแห่งนี้ว่าทะเลมรณะ ก็เพราะน้ำทะเลมีความเค็มจัดจนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ คริสเตียน ลอท ซึ่งเป็นนักชีววิทยาบอกว่าทะเลที่นี่เค็มกว่าทะเลปกติถึงแปดเท่า และเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
แม่น้ำจอร์แดนคือแม่น้ำสายเดียวที่ไหลลงสู่ทะเลสาบแห่งนี้ ความร้อนจากดวงอาทิตย์ทำให้น้ำทะเลระเหยเป็นไอ ทิ้งไว้แต่เกลือและแร่ธาตุที่ทับถมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แบคทีเรียได้ถูกค้นพบในเดดซีเป็นครั้งแรกในช่วงปีคริสตศักราช 1930 แต่สมัยนั้นยังไม่สามารถทำการสำรวจใต้ทะเลได้เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายประการ
คริสเตียนบอกว่าความหนาแน่นสูงของเกลือในเดดซีเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการดำน้ำ ทีมงานต้องถ่วงน้ำหนักตัวเยอะมากเพื่อให้สามารถจมลงใต้ทะเลได้
เมื่อดำลงไปถึงก้นทะเล พวกเขาเห็นจุดต่างๆเต็มไปหมด ซึ่งเข้าใจได้ในทันทีว่าเป็นแบคทีเรียและสิ่งมีชีวิตในรูปแบบที่เราไม่เคยเห็นกันมาก่อน
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมากเช่นนี้ สามารถเจริญเติบโตอยู่ในน้ำที่เค็มจัดได้อย่างไร ทีมนักวิจัยคิดว่านี่คือสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างแท้จริง
Produced by VoiceTV