ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา องค์กรภาครัฐพยายามผลักดันร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนคู่ชีวิต เข้าสู่สภา แต่เมื่อเกิดรัฐประหารการผลักดันร่างกฎหมายก็หยุดชะงัก ซึ่งผู้เสนอเตรียมผลักดันอีกครั้ง ขณะที่องค์กรภาคประชาชนได้เสนอร่างกฎหมายที่ต่างออกไป และเลือกที่จะรอยื่นร่างพระราชบัญญัติเข้าสภาที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น
ปี 2556 คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เผยแพร่ร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนคู่ชีวิต เพื่อคุ้มครองสิทธิคู่รักเพศเดียวกัน หลังได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มหลากหลายทางเพศ ว่าถูกนายทะเบียนปฏิเสธการจดทะเบียนสมรส ร่างนี้ผ่านการประชาพิจารณ์และเตรียมเสนอสภา แต่เหตุการณ์รัฐประหาร ปี 2557 ทำให้กระบวนการเสนอกฎหมายยุติลง
ปลายปี 2557 มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ ได้เผยแพร่ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิตฉบับภาคประชาชน ซึ่งร่วมจัดทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายครอบครัว และนักสิทธิมนุษยชน เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการกลุ่ม LGBT มากขึ้น ทำให้มีร่างกฎหมายคู่ชีวิต 2 ฉบับในขณะนี้
ร่างกฎหมายคู่ชีวิต 2 ฉบับ มีเนื้อหาสำคัญคล้ายกัน คือทำให้คู่รักเพศเดียวกัน ได้รับสิทธิประโยชน์คล้ายคู่สมรส เช่น สามารถจัดการทรัพย์สินที่ได้มาร่วมกัน มีสิทธิแบ่งทรัพย์มรดก ในฐานะทายาทโดยธรรมชั้นคู่สมรส หรือมีสิทธิเป็นผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายแพ่ง
ส่วนที่ต่างคือ ร่างกฎหมายคู่ชีวิตของภาครัฐกำหนดอายุผู้จดทะเบียนสูงขึ้นเป็น 20 ปี บังคับใช้เฉพาะคู่รักเพศเดียวกัน ไม่สามารถรับบุตรบุญธรรม ขณะที่ร่างกฎหมายภาคประชาชนจะเพิ่มทางเลือกสำหรับคู่รักต่างเพศ ที่ไม่ต้องการจดทะเบียนสมรส สามารถรับบุตรบุญธรรม และยุติความสัมพันธ์ได้ง่ายกว่า
สำหรับร่างพระราชบัญญัติจดทะเบียนคู่ชีวิตของภาครัฐ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ผู้ร่วมร่างกฎหมาย เปิดเผยว่าจะเดินหน้าผลักดันอีกครั้ง
ส่วนร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต ฉบับภาคประชาชน มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศซึ่งเป็นแกนนำ ระบุว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนระดมความเห็นจากนักกฎหมายเพื่อให้บังคับใช้ได้จริง และยืนยันว่าจะรอยื่นร่างกฎหมายกับสภา หลังมีการเลือกตั้งเท่านั้น ระหว่างนี้จึงเร่งสร้างความเข้าใจเรื่องกฎหมายกับสาธารณะเป็นหลัก
