ไม่พบผลการค้นหา
เธอคนนี้คือผู้อยู่เบื้องข้างและเบื้องหลัง “รังสิมันต์ โรม” มาฟังทัศนะของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ยืนยันว่าตัวเอง “บึกบึน” นับแต่บรรทัดต่อไปนี้

เธอคนนี้คือผู้อยู่เบื้องข้างและเบื้องหลัง “รังสิมันต์ โรม” มาฟังทัศนะของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ยืนยันว่าตัวเอง “บึกบึน” นับแต่บรรทัดต่อไปนี้

ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ 14 นักศึกษาและนักกิจกรรม “กลุ่มประชาธิปไตยใหม่” ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ ตามคำสั่งฝากขังของศาลทหาร บรรยากาศห้องเยี่ยมในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คึกคักทุกวันเมื่อถึงเวลาเยี่ยม ขณะที่ทัณฑสถานหญิงกลางมีเงื่อนไขอันเข้มงวดและจำกัดบุคคลเข้าเยี่ยมทำให้คนมีโอกาสเข้าเยี่ยมนักศึกษาหญิงเพียงหนึ่งเดียวได้น้อยกว่า 

ในบรรดาผู้ที่เข้าเยี่ยม 13 ผู้ต้องหาชายในห้องเยี่ยมอันเล็กแคบเบียดเสียดหากเทียบกับจำนวนคนที่เข้าไปให้กำลังใจจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีหญิงสาวตัวเล็กๆ หน้าใสปะปนกลมกลืนอยู่กับประชาชนที่เข้าไปแสดงความห่วงใยและให้กำลังใจในเรือนจำ เธอคนนี้คือผู้อยู่เบื้องข้างและเบื้องหลัง “รังสิมันต์ โรม” 

บทสนทนาชิ้นนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2558 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาฟังทัศนะของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ยืนยันว่าตัวเอง “บึกบึน” นับแต่บรรทัดต่อไปนี้ 

-ตั้งแต่คบกับ โรม เคยคิดไหมว่า จะมาถึงสถานการณ์แบบนี้ ที่คนรักอยู่ในเรือนจำ 

ก็เคยคิดเล่นๆ ตั้งแต่เริ่มคบ เพราะการทำกิจกรรมแบบนี้ คนมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ อาจจะไปทำผู้มีอำนาจไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ก็เตรียมใจไม่ทันสักเท่าไหร่ แม้ว่าวันที่ 24 มิ.ย. จะค่อนข้างรู้สึกว่ารอบนี้จะโดนจับจริง แต่พอโดนจับจริงๆ วันที่ 27 มิ.ย. ก็รู้สึกเคว้ง ตอนมาเยี่ยมโรมก็เกือบร้องไห้แต่บอกตัวเองว่าอย่าร้องและโรมก็บอกไม่ให้ร้องไห้ ความรู้สึกเคว้งเกิดขึ้นเพียงไม่นาน

-รู้จักกันอย่างไร ตั้งแต่เมื่อไหร่ 

รู้จักกันเพราะทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่งานของเราไม่ได้อยู่เบื้องหน้าเหมือนโรม งานของเราทั้งหมดจะเป็นงานเบื้องหลังมากกว่า เช่น ทำคอนเทนท์ในโซเชียลฯ  และติดต่อกับสำนักข่าวต่างประเทศ เป็นล่ามด้วย เริ่มคบกันปลายปี 2 จะขึ้นปี3 โรมอยู่คณะนิติศาสตร์ ส่วนเราอยู่คณะศิลปศาสตร์ 

-ความรู้สึกที่ต้องคุยกับแฟนผ่านลูกกรงขัง
 
วันแรกที่มาเห็นก็สะเทือนใจมาก แต่ตอนนี้หงุดหงิดมากกว่า เพราะสิ่งที่ขังไม่ใช่แค่กรงขังทางกายภาพที่เราเห็น แต่มันคืออำนาจที่ไม่ชอบธรรม ริดรอนสิทธิเสรีภาพซึ่งส่งผลระดับย่อยของชีวิตคนสองคน ใครที่คิดว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่กระทบชีวิตประจำวัน มันอาจจะเกิดขึ้นกับคู่ของคุณเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ก็ดีในแง่เป็นประสบการณ์ที่จะเก็บไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง 

-คิดว่าเป็นความเสียหาย เสียประวัติไหม กรณีที่โรมเคยถูกขังในเรือนจำ 

ไม่ค่ะ สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เพราะเขาทำผิด ถ้าแฟนเราก่อคดีอาชญากรรม ความรู้สึกคงไม่ใช่แบบนี้ แต่เรารู้ว่าเขาไม่ได้ทำความผิด เขาเสียสละเพื่อสิ่งที่เขาเชื่อ 

-ถ้าอนาคตมีเหตุการณ์ที่เขาต้องเข้าเรือนจำอีก จะทำใจได้ไหม
 
ทำใจได้แล้ว ในเมื่อเขามาเส้นทางนี้ ก็ต้องวงเวียนแบบนี้ ตราบใดประเทศไทยไม่ไปถึงไหนเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ และคนอื่นจะเจออีกเรื่อยๆ

-คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งขึ้นไหมจาก���หตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

เข้มแข็งขึ้น จากตอนแรกที่มีความรู้สึกวูบใจหายขึ้นมาบ่อยๆ ว่าต่อไปนี้จะไม่ได้คุยกันเหมือนปกติที่มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งส่งรูปแมวรูปหมาให้กันอีกแล้ว แต่เพื่อนๆ หลายคน ก็บอกว่าเราเข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะมาก 

-โรมมีทั้งความสุภาพและหัวแข็ง ในมุมเราเขาเป็นอย่างไรกันแน่ 

เขาเป็นคนสุภาพ ไม่หยาบคาย พูดไม่รุนแรง แต่เขาเป็นคนจริงจัง มีความยึดมั่นในหลักการและเหตุผลมากๆ ตอนที่มีกระแสในโซเชียลฯ ติดแฮชแท็ก #ถ้าคุณมีแฟนเป็นเด็กรัฐศาสตร์ฯ (หรือคณะต่างๆ แล้วพิมพ์บรรยายเงื่อนไข) ตอนนั้นเราเคยติดแฮชแท็กเล่นว่า ถ้าคุณมีแฟนเป็นเด็กนิติศาสตร์ คุณจะต้องมีหลักการและเหตุผลมาก ไม่งั้นคุณจะเถียงแฟนแพ้ 

คือโรมดูจริงจังตลอด ตอนพาไปคุยกับพ่อแม่ โรมก็คุยแต่เรื่องจริงจัง เรื่องเศรษฐกิจการเมือง ถ้าจะคุยฟรุ้งฟริ้งก็จะเป็นตอนที่อยู่กัน 2 คน 

-ถ้าเลือกได้เองจริงๆ อยากมีชีวิตคู่แบบไหน
 
อยากใช้ชีวิตเรียบๆ ปกติธรรมดา เรียนจบแล้วหางานทำ คิดถึงอนาคตด้วยกัน แต่เมื่อเขามาในเส้นทางนี้ สิ่งที่ทำได้คือเชื่อในตัวเขา สนับสนุนเขา

แม้ว่าอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่เราคิดว่า คู่เราก็ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเพจ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” ที่ต้องเรียกร้องให้ผู้ชายดูแลตลอด เราดูแลตัวเองได้ มีแฟนเป็นนักกิจกรรมก็ประมาณนี้ ไม่สามารถเป็นคนอ่อนแอได้

-ตอนโรมถูกโจมตีว่าเป็นเกย์เคยคิดว่าจะออกมาแสดงตัวยืนยันไหมว่าเราเป็นแฟนโรม 

LGBT ไม่ใช่ข้อกล่าวหาที่ทำให้รู้สึกว่าเสียหายและจะต้องชี้แจง เพราะมันไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำอยู่ ส่วนข้อกล่าวหาที่ทำให้เกิดความเสียหายและต้องชี้แจง ยกตัวอย่างเช่น กล่าวหาว่าถูกจ้างมา มีคนอยู่เบื้องหลัง หรือกล่าวหาว่าหมิ่นเบื้องสูง เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจง
 
ส่วนตัวไม่หนักใจเรื่องกล่าวหาว่าโรมเป็นเกย์ เพราะคนจำนวนมากก็รู้ว่าโรมมีแฟนเป็นผู้หญิง และเป็นเรื่องไร้สาระเกินไปถ้าจะเอาเวลาไปดีเฟนด์เรื่องนี้ 

-มีเบื้องหลังอย่างที่เขากล่าวหาไหม 

ไม่มีทาง เราทำงานด้วยกันตลอด เราเห็นเบื้องหน้าเบื้องหลังเขาว่า  ไม่มีผลประโยชน์  ไม่มีคนบงการ โรมอาจจะดูเป็นนักอุดมคติไปหน่อย แต่เขาทำตามสิ่งที่เขาคิดจริงๆ ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ หรือใครสั่งมา แล้วคนอย่างโรมไม่มีใครสั่งเขาได้ โรมเป็นคนหัวแข็ง ถ้าเขาเชื่ออย่างไร เขาก็ทำอย่างนั้น ไม่มีใครสั่งเขาได้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เขาเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม ที่จริงไม่ต้องเป็นโรม ลองนึกดูว่าคนธรรมดาอย่างเราๆ คิดว่าต้องถูกจ้างเท่าไหร่เหรอเพื่อมาติดคุก เพื่อจะมาถูกโจมตีแบบนี้    

-เลือกไม่ผิดคน? 

ตอนนี้มั่นใจมากว่าเลือกไม่ผิดคน และหวังว่าโรมก็คงจะคิดเหมือนกันว่าเลือกไม่ผิดด้วย


ภาพ / เรื่อง ฟ้ารุ่ง ศรีขาว

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog