ไม่พบผลการค้นหา
เกษตรกร จ.สุรินทร์ เริ่มนำข้าวเปลือกหอมมะลิออกจำหน่ายมากขึ้น หลังจากข้าวหอมมะลิ 105 ได้ระยะเวลาเก็บเกี่ยว

เกษตรกร จ.สุรินทร์  เริ่มนำข้าวเปลือกหอมมะลิออกจำหน่ายมากขึ้น หลังจากข้าวหอมมะลิ 105 ได้ระยะเวลาเก็บเกี่ยว

 

นายวิรัตน์  นามวงษา  การค้าภายในจังหวัดสุรินทร์  เปิดเผยว่า ในระยะนี้ข้าวหอมมะลิ 105 กำลังอยู่ในช่วงสุกเหลืองอร่ามรอการเก็บเกี่ยว เกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จะเพาะปลูกข้าวด้วยข้าวพันธุ์ กข.15 และข้าวขาวดอกมะลิ 105 และสามารถทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวไปแล้วประมาณร้อยละ 10 ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด  ซึ่งส่วนใหญ่ช่วงของการเก็บเกี่ยวระยะแรกจะเป็นข้าวหอมมะลิ กข.15 เพราะเป็นข้าวหอมมะลิเบา จะมีอายุระยะการเพาะปลูกสั้นกว่าข้าวหอมมะลิ 105 หลังจากที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิ กข.15 ไปหมดแล้ว  รอบต่อไปจะเป็นการเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิ 105  ซึ่งปีนี้เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์เพาะปลูกมากกว่าข้าวหอมมะลิ กข.15 และข้าวพันธุ์อื่นๆ

 

การค้าภายในจังหวัดสุรินทร์  กล่าวอีกว่า ปีนี้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาดี เกษตรกรจึงนำข้าวออกจำหน่ายมากขึ้น แต่เนื่องจากเกษตรกรต้องการนำเงินไปใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยว  และเกษตรกรบางรายขาดอุปกรณ์และพื้นที่ในการตากข้าว รวมถึงไม่มีเวลาเพียงพอ  ซึ่งผลผลิตข้าวที่เกษตรกรนำมาจำหน่ายส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะเกี่ยวสด  จึงมีความชื้นสูง ทำให้ถูกหักความชื้น โดยราคาซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ณ หน้าโรงสี โดยมีความชื้นแตกต่างกัน แยกเป็นความชื้นที่ระดับประมาณ 30-32% ราคาขายอยู่ที่ตันละ 13,000-13,200 บาท ระดับความชื้นที่ประมาณ 25-29% ราคาซื้อขายตันละ 13,300-13,500 บาท หากความชื้นไม่เกิน 15% หรือข้าวเปลือกแห้งแล้ว  เกษตรกรสามารถขายได้ราคาตันละ 16,200-16,600 บาท เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดี่ยวกันในปีที่ผ่านมาราคาสูงขึ้น ตันละ 2,500 บาท  ดังนั้น  จึงขอให้เกษตรกรตากข้าวให้แห้ง 3-4  แดด เพื่อให้ความชื้นเมล็ดข้าวไม่เกิน  15% ก่อนนำออกจำหน่าย

 

Source:News Center/PRD/VoiceTV(image)

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog