ศึกอเมริกันฟุตบอล NFL อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังประธานด้านความปลอดภัย เล็งยกเลิกการสวมหมวกกันน็อคระหว่างแข่งขัน เนื่องจากมองว่า การสวมเครื่องป้องกันที่ศีรษะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักกีฬาได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองมากขึ้น
จอห์น ยอร์ค ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านสุขภาพ และความปลอดภัยของศึก "คนชนคน" NFL เชื่อว่า ในอนาคตหมวกป้องกันที่ผู้เล่นทุกคนต้องสวมใส่เวลาลงแข่งขัน อาจถูกยกเลิกใช้ เนื่องจากการปะทะรุนแรงระหว่างผู้เล่นที่สวมหมวกป้องกันทั้งสองฝ่าย มีความรุนแรงถึงขั้นทำให้เกิดการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ จนลามไปถึงระบบประสาท ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในปั้นปลายชีวิตคล้ายนักมวยอาชีพ ด้วยเหตุนี้ การสวมหมวกป้องกันลงปะทะกันจึงเป็นความคิดที่ผิดตั้งแต่แรก และเกิดขึ้นแล้วหลายเคสในนักอเมริกันฟุตบอลที่เลิกเล่น และมีอายุมากขึ้น โดยอาการแตกต่างกันไป เช่น โรคเครียด, ความจำเสื่อม, อารมณ์แปรปรวน รวมถึงการมีปัญหากับระบบการรับรู้ อันเนื่องมาจากการกระทบกระเทือนของสมองทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงกันตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและมีแววเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสอดคล้องกับความพยายามของ NFL ที่จ่ายเงินไปแล้วเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3 หมื่น 1 พันล้านบาท ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อลดความเสี่ยงของอดีตผู้เล่นที่ได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง
ข้ามมาดูอีกข่าวของวงการ NFL เมื่อลูกฟุตบอลที่ทีม นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ใช้ในเกมชิงแชมป์สายเอเอฟซี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาเอาชนะ อินเดียนาโปลิส โคลต์ส 45-7 เตรียมถูกนำออกประมูลผ่านเว็บไซต์ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 25,000 ดอลลาร์ หรือราว 775,000 บาท ลูกบอลนี้เป็นหนึ่งในหลักฐานลูกบอลจำนวน 11 ลูกของคดีจงใจใช้ลูกฟุตบอลที่มีค่าลมอ่อนกว่ามาตรฐาน เพื่อให้ง่ายต่อการขว้างของ ทอม เบรดี้ ยอดควอเตอร์แบ็คของนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ จนเป็นผลให้มีการลงโทษปรับเงินทีม แพทริออตส์ 1 ล้านดอลลาร์ หรือ 31 ล้านบาท พร้อมตัดสิทธิ์ดราฟท์ผู้เล่น 2 ครั้ง และสั่งห้ามทอม เบรดี้ ลงแข่งขัน 4 เกม ซึ่งคดีหลังยังอยู่ในช่วงของการขออุทธรณ์