ปกติเวลาน้ำท่วม เรามักนึกถึงกระสอบทรายที่จะนำมาใช้เป็นพนังกั้นน้ำ แต่ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีทีเปิดเผยว่า อาจนำกระสอบพองน้ำ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของญี่ปุ่นมาใช้เป็นพนังกั้นน้ำแทน
ถุงทรายถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างมาก สำหรับการรับมือกับเหตุอุทกภัย ถุงทรายที่ใช้กันทั่วไป มักจะมีน้ำหนักมาก และมีขนาดใหญ่จนไม่สามารถเก็บเอาไว้เพื่อป้องกันภัยที่ยังไม่เกิดขึ้นได้ แต่หากจะรอให้เกิดเหตุก่อนแล้วค่อยวางถุงทรายเป็นพนังกั้นน้ำ ก็ต้องใช้เวลานาน จนอาจไม่ทันท่วงที
อุปสรรคเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้เทคโนโลยี "กระสอบพองน้ำ" ซึ่งมีใช้กันในหลายประเทศ เช่นที่ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา คุณสมบัติสำคัญของกระสอบพองน้ำก่อนใช้งานก็คือ มีน้ำหนักเบาประมาณครึ่งกิโลกรัม และมีลักษณะบางเหมือนกระสอบเปล่า ทำให้สามารถซื้อเก็บไว้ในบ้าน เพื่อเตรียมรับมือกับอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งแต่ละถุงก็สามารถเก็บไว้ใช้งานได้นานถึง 3 ปี
และเมื่อถึงเวลาที่ต้องการนำกระสอบพองน้ำออกมาใช้ ก็เพียงแค่นำไปแช่น้ำ เพื่อให้สารอุ้มน้ำที่อยู่ภายในพองตัว กระสอบพองน้ำที่ใช้สารอุ้มน้ำต่างกัน ก็จะใช้เวลาในการพองตัวไม่เท่ากัน โดยจะอยู่ระหว่าง 1-5 นาที และเมื่อกระสอบพองตัวเต็มที่ ก็จะมีน้ำหนักประมาณ 15 ถึง 20 กิโลกรัม คล้ายกระสอบทรายทั่วไป พร้อมสำหรับนำไปทำพนังกั้นน้ำได้แล้ว
หลังใช้งาน แม้จะไม่สามารถนำกระสอบพองน้ำกลับมาใช้งานใหม่ได้อีก แต่ก็สามารถนำไปตากแดด เพื่อปล่อยให้ย่อยสลายไปตามธรรมชาติ โดยไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ข้อเสียของกระสอบพองน้ำชนิดนี้ก็คือราคาที่สูงกว่ากระสอบทรายแบบธรรมดา เช่นกระสอบทรายพองน้ำของญี่ปุ่นมีราคาถึง 450 เยนหรือประมาณ 182 บาท แต่หากต้องการราคาที่ย่อมเยากว่านั้น ก็อาจลองใช้กระสอบพองน้ำที่คิดค้นขึ้นโดยคนไทย ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 100 กรัม และมีราคา 100 บาทต่อถุง เป็นทางเลือกก็ได้
Produced by VoiceTV