ไม่พบผลการค้นหา
ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ กลับคำตัดสินของศาลชั้นต้น อนุญาตให้ยูทูบและผู้เผยแพร่ข้อมูลออนไลน์ทุกเจ้า สามารถเผยแพร่ภาพยนตร์ "อินโนเซนส์ ออฟ มุสลิม" ทางเว็บไซต์ต่อไปได้

ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ กลับคำตัดสินของศาลชั้นต้น อนุญาตให้ยูทูบและผู้เผยแพร่ข้อมูลออนไลน์ทุกเจ้า สามารถเผยแพร่ภาพยนตร์ "อินโนเซนส์ ออฟ มุสลิม" ทางเว็บไซต์ต่อไปได้

ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ กลับคำตัดสินของศาลชั้นต้น อนุญาตให้ยูทูบและผู้เผยแพร่ข้อมูลออนไลน์ทุกเจ้า สามารถเผยแพร่ภาพยนตร์ "อินโนเซนส์ ออฟ มุสลิม" ทางเว็บไซต์ต่อไปได้ โดยศาลได้ให้เหตุผลว่า ยูทูบไม่จำเป็นต้องนำวีดีโอต่อต้านศาสนาอิสลามดังกล่าวออก เพราะหากทำเช่นนั้นจะถือว่าเป็นการไม่เคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งถือเป็นสิทธิพื้นฐาน ทั้งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านมุสลิม 

ก่อนหน้านี้ยูทูบได้นำภาพยนตร์ "อินโนเซนส์ ออฟ มุสลิม" ออกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ เมื่อปี 2012 ส่งผลให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงจากชาวมุสลิมในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในอียิปต์และลิเบีย เนื่องจากกลุ่มผู้ประท้วงอ้างว่า ภาพยนตร์นำเสนอภาพของศาสดามูฮัมมัดในแง่ลบ มีทั้งฉากรัก และเพศสัมพันธ์ในภาพยนตร์ รวมถึงสื่อว่าศาสดามูฮัมหมัดเป็นคนรักเพศเดียวกัน ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง นอกจากนี้ในบางประเทศยังได้ปิดกั้นเว็บไซต์ยูทูบ เพื่อไม่ให้ได้รับชมภาพยนตร์ตัวอย่างอีกด้วย 

การประท้วงที่ขยายวง ทำให้หนึ่งในนักแสดงของภาพยนตร์ ซินดี ลี การ์เซีย ฟ้องศาลให้บังคับให้ยูทูบถอนวีดีโอออก เพราะเธอถูกขู่ฆ่า ทั้งๆที่เธอแสดงบทเล็กๆในภาพยนตร์เท่านั้น โดยเธอกล่าวว่า เธอไม่มีเจตนาที่จะดูหมิ่นศาสนาเลย  

การ์เซียบอกว่าข้อตกลงในการแสดงภาพยนตร์ดังกล่าวใช้ชื่อเรื่องว่า  "เดสเซิท วอริเออร์" (Desert Warriors) ซึ่งเธอถูกทำให้เชื่อว่า บทภาพยนตร์มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเป็นไปในอียิปต์เมื่อ 2,000 ปีก่อน ซึ่งไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับศาสดาของศาสนาอิสลาม หรือกลุ่มมุสลิมเลย  แต่ผู้สร้างภาพยนตร์ได้พากษ์เสียงทับบทแสดงที่เธอพูด เและเปลี่ยนชื่อภาพยนตร์ เป็น "อินโนเซนส์ ออฟ มุสลิม" ส่งผลให้ผู้สร้างภาพยนตร์ถูกจับคุก 1 ปี ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร 

การที่ศาลตัดสินเช่นนี้ ทำให้เกิดคำถามอีกครั้งถึงขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงความเห็น และการแพร่ Hate Speech โดยมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าวีดีโอที่ส่งเสริมการเกลียดชังชาวยิว จะถูกลบออก แต่หากเป็นการส่งเสริมการเกลียดชาวมุสลิม กลับมีสิทธิ์ได้รับการเผยแพร่ ขณะที่อีกบางส่วนก็มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไม่เข้าข่าย Hate Speech

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog