ไม่พบผลการค้นหา
'คุณหญิงสุดารัตน์' ทวีตข่าวจับกุม 'มายด์' ชี้เป็นคำแถลง 'ถอยคนละก้าว' ของพล.อ.ประยุทธ์ไร้ความจริงใจ 'ธนาธร' ชี้คำแถลงไม่มีสาระ ไม่เกิดประโยชน์ 'จิราพร' สวนกลับอย่าอ้างม็อบทำเศรษฐกิจพัง ทั้งที่นายกฯ เป็นต้นตอปัญหา ฟาก 'เทพไท' หนุนถอยคนละก้าว เรียกร้อง ส.ว.โหวตรับร่างแก้ รธน. 6 ฉบับ

ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงการณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมือง โดยมีสาระสำคัญยืนยันจะไม่ลาออกตามข้อเรียกร้องของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ 'ถอยคนละก้าว' สละความรู้สึกส่วนตัวและความต้องการส่วนตัวบางอย่าง เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศ

นอกจากนี้ ยังได้ระบุว่า กำลังเตรียมการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงในท้องที่กรุงเทพมหานคร เรียกร้องให้เคารพกฎหมาย และใช้รัฐสภาเป็นทางออกในการพูดคุย นั้น

พลันที่การถ่ายทอดแถลงข่าวของพล.อ.ประยุทธ์เสร็จสิ้นลงในเวลาราวๆ 19.20 น.ของค่ำวันที่ 21 ต.ค. ที่่ผ่านมา พร้อมกับการเคลื่อนขบวนของฝั่งผู้ชุมนุม 'คณะราษฎร' เข้าประชิดทำเนียบรัฐบาลในเวลาประมาณ 21.00 น. และประกาศยุติการชุมนุมไปในเวลาประมาณ 21.30 น. หลังยื่นเอกสารให้พล.อ.ประยุทธ์ลงนามลาออก ผ่านตัวแทนของรัฐบาล

แต่ในเวลาประมาณ 22.50 น. กลับมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว มายด์ หรือ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และตัวแทนกลุ่มราษฎร 2563 หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง

นำมาสู่คำถามว่า "ถอยคนละก้าว" และคำแถลงของนายกรัฐมนตรีในช่วงหัวค่ำเป็นเพียงคำกล่าวที่ไร้ความจริงใจ

ขณะที่ นักการเมือง ส.ส. จากทั้งฟากฝั่งฝ่ายค้านและรัฐบาล ได้ออกมาส่งเสียงเรียกร้อง (Call out) ความจริงใจจากถ้อยแถลงของพล.อ.ประยุทธ์ ดังนี้

จับมายด์ สะท้อน 'ประยุทธ์' ไร้ความจริงใจ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ทวีตภาพข่าว ตำรวจนอกเครื่องแบบบุกจับ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย และตัวแทนกลุ่มราษฎร เมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุข้อความว่า "การกระทำนี้ เป็นบทพิสูจน์ความ "จริงใจ" ของคนที่เสนอให้ "ถอยคนละก้าว"

คำแถลงไร้สาระ ไม่จริงใจ ไม่เกิดประโยชน์

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความระบุว่า เมื่อไม่มีแม้แต่เจตจำนงในการหาทางออกร่วมกัน ดังนั้นการถอยคนละก้าวที่พล.อ.ประยุทธ์พูดถึง จึงไม่ใช่การถอยแน่ๆ ดังนั้นการแถลงของเขาไม่มีสาระ ไม่มีความจริงใจ และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด

ออกหมายจับ 'มายด์' ก่อนออกหมายเรียก จัดม็อบชนม็อบ

ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ทวีตข้อความแสดงความเห็นว่า ไหนกันที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าให้ถอยกันคนละก้าว แถลงเสร็จก็ไล่ล่าจับกุมนักศึกษาต่อเลย แถมออกหมายจับก่อนจะมีหมายเรียกด้วย 

นายกฯ ประยุทธ์แถลงวันนี้เหมือนดูดี บอกถอยคนละก้าว เข้าใจนักศึกษาและประชาชน จะไม่ใช้กำลังปราบปรามการชุมนุม ให้ใช้สภาเป็นทางออก แต่กลับใช้กลไกรัฐระดมมวลชนเพื่อสร้างกระแสต่อต้านแล้วไปปะทะกับ นักเรียน-นักศึกษา แทนเจ้าหน้าที่ หากสุดท้ายเกิดความรุนแรงจะได้ฉวยโอกาสใช้อำนาจเข้าควบคุมสถานการณ์ 


แถลงการณ์อ้างผลกระทบเศรษฐกิจ แต่ไม่มองตัวเองเป็นต้นตอของปัญหา

จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 ในฐานะคณะทำงานทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยังแสดงความเห็นด้วยว่า แถลงการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นการตอกย้ำให้เห็นชัดเจนว่า ไม่เคยตระหนักเลยว่าตนเองเป็นต้นตอของปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้องอยู่ในขณะนี้

"ล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ปล่อยให้ราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะราคาข้าวตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นคนที่ควรถอยคือพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ประชาชน ขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์เสียสละลาออก แต่หากยังดึงดันจะอยู่ต่อ นอกจากจะเจอม็อบนักเรียน นักศึกษาแล้ว ระวังจะเจอม็อบชาวนาเพิ่ม" จิราพร ระบุ


'เทพไท' หนุนถอยคนละก้าว ขอนายกฯ สั่ง ส.ว.โหวตหนุนแก้ รธน.

เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนขอสนับสนุนแนวความคิดถอยกันคนละก้าวของพล.อ.ประยุทธ์ เพราะสอดคล้องกับข้อเรียกร้องที่ตนเคยเสนอมาก่อนหน้านี้แล้ว และหวังว่าทุกฝ่ายคงกลับไปทบทวนบทบาทของตัวเองว่า จะถอยกันคนละก้าวอย่างไร ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายผู้ชุมนุม และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

จากปัญหาข้อเรียกร้องของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ในส่วนของข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการศึกษาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการ ของรัฐสภา จนบัดนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณใดๆ จากในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาเลย โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภากลุ่มฮาร์ดคอร์ ยังคงยืนยันที่จะให้มีการทำประชามติก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไม่สนับสนุนญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ของพรรคร่วมรัฐบาล

ถ้าหากญัตติดังกล่าวไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาจำนวนหนึ่งในสาม คือ 84 คน ก็จะทำให้ญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอันตกไป ซึ่งจะมีผลกระทบทางการเมืองที่พรรคร่วมรัฐบาล และรัฐบาลเองต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง เพราะญัตติดังกล่าวเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และเป็นญัตติสำคัญของพรรคร่วมรัฐบาลอีกด้วย

จากปัญหาข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ประเด็นรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ก็เป็นข้อขัดแย้งหลักที่เกิดขึ้นในสังคม ถ้าหากยังไม่ได้รับการแก้ไขตามข้อเรียกร้องของกลุ่มคณะราษฎร2563 ก็จะเป็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมต่อไป

ถ้ามีการเรียกร้องให้ถอยกันคนละก้าวจริง ส่วนตัวก็อยากจะเรียกร้องมายังสมาชิกวุฒิสภาให้ลดราวาศอกในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยการสนับสนุนญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับ จะเป็นการลดปัญหาข้อเรียกร้องหนึ่งในสามข้อ ของคณะราษฎร 2563 ได้อีกด้วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :