ทางการเกาหลีใต้ออกมาตรการเข้มงวด เพื่อกวาดล้างโรงเรียนกวดวิชาที่เปิดหลัง 22 นาฬิกาเป็นต้นไป

หน้าที่ใหม่ของตำรวจในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ในตอนนี้ก็คือ การลาดตระเวนกวาดล้างจับกุมสถาบันกวดวิชาที่เปิดทำการหลัง 22.00 น. เพื่อควบคุมให้เด็กนักเรียนมัธยมปลายกลับบ้าน พร้อมกล่าวตักเตือนถึงเวลาที่เหมาะสมในการเรียนพิเศษ ที่ไม่ควรจะดึกมากเกินไป ก่อนจะปล่อยตัวเด็กกลุ่มนี้กลับบ้าน โดยที่ไม่ได้ตั้งข้อหาใดๆทั้งสิ้น

วัฒนธรรมการเรียนพิเศษจนถึงตี 1 หรือตี 2 ในเกาหลีใต้ ถือเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป โดยเด็กนักเรียนเหล่านี้เรียนพิเศษอย่างหนัก เพื่อให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศได้ ซึ่งสำหรับพวกเขานั้น ถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสอบให้ติด เพราะนั่นอาจหมายถึงชีวิตที่เหลือทั้งหมด แม้ว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีลี มยุง บัก ได้ประกาศปฏิรูปการศึกษาครั้งใหญ่  เพื่อไม่ให้เด็กนักเรียนยึดติดกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะจะทำให้เด็กไม่สนใจการเรียนการสอนในห้องเรียน และมุ่งหน้าไปที่โรงเรียนกวดวิชาเพียงอย่างเดียว

แต่ถึงแม้ว่ารัฐบาลเกาหลีใต้จะพยายามแก้ไขระบบการศึกษาใหม่ให้ดีขึ้นแค่ไหน จำนวนเด็กไปเรียนกวดวิชาก็ไม่ลดลงจากเดิม ในทางตรงกันข้ามกลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากผลการสำรวจล่าสุดพบว่า มีเด็กนักเรียนชาวเกาหลีใต้กว่าร้อยละ 74 ที่เรียนพิเศษหลังเลิกเรียน โดยผู้ปกครองต้องเสียค่าเรียนพิเศษเฉลี่ยปีละ 2,600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 80,000 บาท

นอกจากนี้ จำนวนของครูสอนพิเศษและติวเตอร์ ยังมีมากกว่าจำนวนของครูในโรงเรียนทั่วไป และหากว่าครูกวดวิชาที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ก็จะสามารถทำเงินได้นับล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการจำหน่ายแบบทดสอบออนไลน์ และการสอนแบบตัวต่อตัว

การจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนี้ ไม่ใช่เครื่องค้ำประกันได้ว่า นักเรียนที่ผ่านการเรียนพิเศษอย่างหนักจะสอบติดสถาบันที่มีชื่อเสียง เพราะในแต่ละปีมีเด็กเพียงร้อยละ 14 เท่านั้นที่สอบติด  สำหรับเด็กที่สอบไม่ติด ส่วนมากก็จะใช้เวลาตลอดทั้งปี เพื่อกวดวิชาต่อเฉลี่ยวันละ 14 ชั่วโมง โดยเด็กกลุ่มนี้เมื่อสอบใหม่พบว่าร้อยละ 70 สามารถสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดัง 3 อันดับแรกของเกาหลีใต้ได้

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากสถาบันกวดวิชาจำนวนมากต่างก็รู้สึกในแบบเดียวกันว่า รัฐบาลไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการกวาดล้างสถาบันกวดวิชาที่เปิดทำการในเวลากลางคืน เพราะพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด และแค่ทำในสิ่งที่ช่วยให้เด็กนักเรียนได้รับความรู้เพิ่มเติมเท่านั้น อีกทั้งการแก้ปัญหาด้วยวิธีไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ทางที่ดีควรมีการปรับปรุงการศึกษาทั้งระบบเพื่อให้การเรียนการสอนในโรงเรียนมีคุณภาพที่ดีกว่านี้

Produced by VoiceTV