มลรัฐยูทาห์ของสหรัฐฯกำลังเตรียมพิจารณากลับไปใช้การยิงเป้าในการประหารชีวิตนักโทษแทนการฉีดยา ซึ่งถูกมองว่าเป็นการถอยหลังเข้าคลองด้านสิทธิมนุษยชนครั้งใหญ่
    
สมาชิกวุฒิสภาท้องถิ่นมลรัฐยูทาห์ของสหรัฐฯ โหวตอนุมัติข้อเสนอที่ให้มีการยิงเป้าประหารชีวิตนักโทษ ในกรณีที่หน่วยงานราชทัณฑ์ไม่สามารถหายาฉีดที่ใช้สำหรับการประหารชีวิตมาใช้อย่างเพียงพอกับความต้องการได้ ซึ่งหากผู้ว่าการรัฐยูทาห์ลงนามอนุมัติกฎหมายนี้ ก็จะถือเป็นการนำโทษประหารชีวิตด้วยการยิงเป้ากลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากมลรัฐยูทาห์เลิกใช้วิธีดังกล่าวมานานกว่า 10 ปี และยังจะทำให้ยูทาห์เป็นมลรัฐเดียวในสหรัฐฯที่ประหารชีวิตนักโทษด้วยการยิงเป้าอีกด้วย

การตัดสินใจเสนอให้กลับมาใช้วิธียิงเป้าในการประหารชีวิต มีขึ้นหลังจากในช่วงปีที่ผ่านมา หลายมลรัฐในสหรัฐฯ เช่นเท็กซัส เผชิญกับปัญหาขาดแคลนยาฉีดสำหรับการประหารชีวิต เนื่องจากยาดังกล่าวส่วนใหญ่ผลิตในยุโรป แต่อียูคว่ำบาตรไม่ขายยาเหล่านี้ให้กับสหรัฐฯเพื่อต่อต้านโทษประหาร ส่วนในยูทาห์เอง หน่วยงานราชทัณฑ์ยอมรับว่าขณะนี้ไม่มียาฉีดสำหรับการประหารชีวิตอยู่ในครอบครองเลยแม้แต่โดสเดียว

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุอื้อฉาวที่นักโทษใช้เวลานาน และมีอาการทรมาน กว่าจะเสียชีวิตจากการฉีดยา ทำให้หลายมลรัฐในสหรัฐฯกำลังมองหาวิธีอื่นในการประหารนักโทษ 

ส.ว.ยูทาห์ให้เหตุผลว่าการยิงเป้า เป็นวิธีการประหารชีวิตที่รวดเร็วและไม่ทรมานเท่ากับการฉีดยาที่ผิดพลาด แต่ผู้ที่คัดค้านเรื่องนี้กลับมองว่าการยิงเป้าเป็นวิธีป่าเถื่อนที่ตกทอดมาตั้งแต่ยุคคาวบอย และถือเป็นการละเมิดสิทธินักโทษอย่างร้ายแรง

ก่อนหน้านี้ มลรัฐอาร์คันซอก็ได้เสนอกฎหมายที่จะอนุญาตให้มีการใช้การยิงเป้าประหารชีวิต แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ส่วนในไวโอมิง กฎหมายอนุมัติการใช้การยิงเป้าแทนฉีดยาประหารนักโทษไม่ผ่านสภา ขณะที่ในโอกลาโฮมา กำลังมีการพิจารณาใช้การประหารชีวิตนักโทษด้วยการรมแก๊สไนโตรเจน