ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ชาวไทยพูดถึงเรื่องราวของเทือกเขาอัลไตกันอย่างคึกคัก หลายคนทราบเพียงว่าดินแดนแห่งนี้อยู่ในประเทศจีน และอาจเป็นแหล่งกำเนิดของชาวไทยในสุวรรณภูมิ แต่แท้จริงแล้ว เทือกเขาอัลไตหน้าตาเป็นอย่างไร และคนที่นั่นมีวิถีชีวิตคล้ายคลึงกับคนไทยหรือไม่
อัลไต ตามภาษามองโกเลีย หมายถึงหุบเขาแห่งทองคำ แต่ที่นี่ไม่ได้เต็มไปด้วยทองคำตามชื่อ เทือกเขาอัลไตตั้งอยู่ในเอเชียกลาง บนรอยต่อระหว่างรัสเซีย จีน มองโกเลีย และคาซักสถาน ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยเทือกเขาสูงตระหง่านอันยากแก่การปีนป่าย อย่าว่าแต่การอยู่อาศัยเป็นชุมชน รวมถึงมีอากาศเย็นจัดตลอดทั้งปี โดยยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาอัลไต คือยอดเขาเบลูกา อยู่ในดินแดนของคาซักสถาน สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 4,500 เมตร และเป็นยอดเขาที่ท้าทายนักปีนเขาที่สุดแห่งหนึ่งในโลกด้วยความสูงชันและสภาพอากาศที่เลวร้าย
แต่ภูมิภาคอัลไตกินพื้นที่กว้างขวาง และนอกจากโซนเทือกเขาอันหนาวเย็น ก็ยังมีส่วนที่เป็นที่ราบระหว่างหุบเขาที่อุดมไปด้วยทุ่งหญ้าและทะเลสาบสวยงาม เหมาะแก่การเลี้ยงสัตว์ หรือการท่องเที่ยวอยู่ด้วย รวมถึงยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากเช่นเสือดาวหิมะ และด้วยความหลากหลายเช่นนี้ ทำให้อัลไตได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ภายใต้ชื่อ หุบเขาทองคำอัลไต เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศหลากหลาย ตั้งแต่ทุ่หญ้าสเต็ปไปจนถึงป่าสนและป่าเบญจพรรณ
ปัจจุบันภูมิภาคอัลไตซึ่งคาบเกี่ยวระหว่างรัสเซียกับคาซักสถาน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งในเอเชียกลาง นักท่องเที่ยวที่ไปที่นี่ จะได้สัมผัสทั้งบรรยากาศธรรมชาติของทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และหญ้าเขียวขจี สลับกับลำธารและทะเลสาบ ไปจนถึงป่าสนสูงตระหง่าน โดยสามารถทำกิจกรรมผจญภัยอย่างปีนเขา เดินป่า ขี่ม้า หรือกิจกรรมสบายๆอย่างการปิกนิกก็ได้
ส่วนใครที่ชอบวัฒนธรรม ก็สามารถไปเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวอัลไต ที่ยังคงขนบธรรมเนียมแบบดั้งเดิมแทบทุกประการได้ หน้าตา การแต่งกาย และประเพณีของคนที่นี่อาจจะดูเหมือนคนทิเบตหรือจีน แต่ที่จริงพวกเขาเป็นชาวเติร์ก เผ่าพันธุ์เดียวกับชาวเอเชียกลางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวอุยกูร์ในจีน หรือชาวคาซัก ทาจิก และคีร์กีซ ไม่ได้มีเชื้อจีน มองโกล หรือไทยแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ในดินแดนอัลไตฝั่งรัสเซีย ยังมีภูมิภาคที่ชื่อว่าสาธารณรัฐอัลไต เป็นดินแดนภายใต้การปกครองของรัสเซีย และถูกขนานนามว่าเป็นทิเบตแห่งรัสเซีย ดินแดนแห่งนี้มีชาวอัลไตเชื้อสายเติร์กอาศัยอยู่ประมาณ 70,000 คน คิดเป็นร้อยละ 34 ของประชากรทั้งอัลไต แต่ประชากรส่วนใหญ่ในสาธารณรัฐอัลไตกลับเป็นชาวรัสเซีย ที่มีจำนวนถึงร้อยละ 56 ทำให้ปัจจุบัน ชาวอัลไตกลายเป็นชนกลุ่มน้อยในดินแดนของพวกเขาเอง
