Asian Review ประจำวันที่ 3 ก.พ. 2558
-ฟิลิปปินส์-MILF เรียกร้องหยุดยิงในมินดาเนา
-สภาเมียนมาร์ถกสิทธิเลือกตั้งผู้ถือบัตรปชช.ชั่วคราว
-GDP เวียดนามไตรมาสแรกโตร้อยละ 5.4
ฟิลิปปินส์-MILF เรียกร้องหยุดยิงในมินดาเนา
คณะผู้แทนเจรจาสันติภาพระหว่างฟิลิปปินส์และแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโรหรือ MILF เรียกร้องให้มีการหยุดยิงบนเกาะมินดาเนา ภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ตามข้อตกลงสันติภาพที่ลงนามร่วมกันไปเมื่อเดือนมีนาคมปี 2556 หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างตำรวจกับกลุ่ม MILF รอบใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ตำรวจเสียชีวิตทั้งสิ้น 44 นาย จนเกิดแรงกดดันจากสังคมฟิลิปปินส์ให้รัฐบาลตอบโต้กลุ่ม MILF แต่นายเบนิกโน อากีโน ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ก็ยังไม่ออกคำสั่งใดๆ
คำเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ระหว่างการเจรจาของทั้งสองฝ่ายโดยมีมาเลเซียเป็นคนกลางในการเจรจาเพื่อนำไปสู่การปลดอาวุธกลุ่ม MILF ผู้แทนของรัฐบาลฟิลิปปินส์เตือนว่า หากกลุ่ม MILF ไม่ยอมวางอาวุธ กระบวนการสันติภาพบนเกาะมินดาเนาก็จะไม่เกิดขึ้น หรือสถานการณ์อาจยิ่งเลวร้ายลง ขณะที่ผู้แทนของกลุ่ม MILF กล่าวว่า ทางกลุ่มยอมรับในกระบวนการสันติภาพทุกประการ และเดือนหน้าจะมีการส่งมอบอาวุธหนักให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ว่า MILF ต้องการสันติภาพอย่างแท้จริง
สภาเมียนมาร์ถกสิทธิเลือกตั้งผู้ถือบัตรปชช.ชั่วคราว
รัฐสภาเมียนมาร์อภิปรายถึงสิทธิเลือกตั้งของผู้ถือบัตรประชาชนชั่วคราวหรือบัตรขาว ว่าผู้ที่ถือบัตรชั่วคราวสมควรได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งทั่วไปในปลายปีนี้หรือไม่ เพราะคนที่ถือบัตรขาวส่วนใหญ่ล้วนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์และชาวโรฮิงยา พันโทเยเนียงอู่ สมาชิกรัฐสภาจากกองทัพเมียนมาร์กล่าวว่า การตัดสินใจว่าผู้ถือบัตรขาวสมควรได้รับสิทธิในการเลือกตั้งหรือไม่ ควรเป็นไปตามการตัดสินใจของคณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมาร์ ซึ่งยืนยันแล้วว่าจะไม่อนุญาตให้ผู้ถือบัตรขาวสามารถลงคะแนนได้ และได้ส่งข้อกำหนดดังกล่าวให้ประธานาธิบดีเมียนมาร์ลงนามแล้วตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา
ขณะที่ สมาชิกรัฐสภาของรัฐฉานระบุว่า ชาวเขาในพื้นที่ห่างไกลของเมียนมาร์จำนวนมากไม่มีบัตรประชาชนและการเข้าไปทำบัตรประชาชนก็มีความยากลำบากมาก แต่พวกเขาล้วนถือบัตรขาวแทบทั้งสิ้น ดังนั้น เขาจึงเห็นด้วยกับประธานาธิบดีเต็งเส่งที่อนุญาตให้ผู้ถือบัตรขาวสามารถลงคะแนนได้ ซึ่งหากทางการเมียนมาร์ไม่อนุญาตให้ผู้ถือบัตรประชาชนชั่วคราวเลือกตั้ง ก็จะมีผู้เสียสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 1.5 ล้านคนเลยทีเดียว
GDP เวียดนามไตรมาสแรกโตร้อยละ 5.4
รัฐบาลเวียดนามออกมาคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วถึงร้อยละ 5.4 ในไตรมาสแรกของปีนี้ และในไตรมาสต่อไปของปีนี้จะเติบโตมากยิ่งขึ้นถึงร้อยละ 6.2 เลยทีเดียว การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นการเปรียบเทียบอัตราการเจริญเติบโตในไตรมาสเดียวกันของเมื่อปีที่ผ่านมา ที่เติบโตได้เพียงร้อยละ 5 ขณะที่ปัจจัยบวกอีกด้านหนึ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ของเวียดนามเห็นคือ อัตราเงินเฟ้อภายในประเทศเริ่มลดลงจากเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จากราคานํ้ามันโลกที่ตกตํ่า
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ของ HSBC ออกมาระบุว่า เวียดนามไม่ได้เติบโตตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ซํ้าร้ายยังอาจเผชิญวิกฤต จากปริมาณนํ้ามันที่สูงกว่าความต้องการในประเทศ การลดค่าเงินดองอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกจากเมื่อปีที่ผ่านมาก็ส่งสัญญาณชัดเจนจากว่าลดลงจากร้อยละ 15.2 ในปี 2013 เหลือเพียงร้อยละ 13.6 ในปี 2014
