นักบรรพชีวินวิทยาต้องเขียนประวัติศาสตร์ใหม่ หลังค้นพบซากงูหลายชนิด มีอายุมากกว่าฟอสซิลที่เก่าแก่ที่สุดหลายสิบล้านปี สันนิษฐานเป็นงูที่ยังมีแขนขา และไม่มีพิษ

รายงานวิจัยในวารสาร Nature Communications ระบุว่า ฟอสซิลงู 4 ชนิดที่พบในอังกฤษ โปรตุเกส และสหรัฐ ทำให้ต้องเขียนประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของงูกันใหม่ ย้อนเวลาไปอีกหลายสิบล้านปี

ก่อนหน้านี้ ฟอสซิลงูที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุ 102 ล้านปี แต่เจ้างูชนิดใหม่ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Eophis underwoodi ลำตัวยาว 10 นิ้ว ซึ่งพบในเหมืองปูนใกล้กับเมืองออกซ์ฟอร์ด แคว้นอิงแลนด์ มีอายุถึง 167 ล้านปี

งูมีวิวัฒนาการมาจากพวกกิ้งก่า ซากดึกดำบรรพ์ของงูยุคแรกเริ่ม ที่เคยพบก่อนหน้านี้ มีขาหลังขนาดเล็กปรากฏอยู่ แม้ฟอสซิลของทั้งสี่ชนิดนี้มีแต่ส่วนกะโหลก ไม่ใช่โครงกระดูกตลอดลำตัว แต่นักวิจัยบอกว่า พวกมันคงมีทั้งขาหน้าและขาหลัง

ไมเคิล คาล์ดเวล นักบรรพชีวินวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา หัวหน้าทีมวิจัย บอกว่า งูพวกนี้ไม่ได้มีแขนขาไว้เดิน แต่ใช้ยึดจับ

งูสี่ชนิดนี้มีชีวิตร่วมยุคกับไดโนเสาร์ เจ้าอีโอฟิส ซึ่งเก่าแก่ที่สุด อาศัยอยู่ตามหนองบึง กินปลาตัวเล็กๆ แมลง และลูกอ๊อด

เจ้าตัวใหญ่ที่สุด มีชื่อว่า Portugalophis lignites พบในเหมืองถ่านหินในภาคกลางของโปรตุเกส มีความยาว 1.2 เมตร มีอายุ 155 ล้านปี กินสัตว์เลื้อยคลาน ลูกไดโนเสาร์ กิ้งก่า นก และกบ

เจ้า Diablophis gilmorei มีอายุ 155 ล้านปี พบทางตะวันตกของมลรัฐโคโลราโด ตัวใหญ่กว่าอีโอฟิสเล็กน้อย กินอาหารจำพวกเดียวกัน

สุดท้าย เจ้า Parviraptor estesi  เจอบนหน้าผาริมฝั่งทะเล ในแคว้นอิงแลนด์ มีความยาว 2 ฟุต มีอายุ 144 ล้านปี

คาล์ดเวลบอกว่า งูพวกนี้ไม่มีพิษ งูพิษตัวแรกๆถือกำเนิดขึ้นเมื่อราว 20 ล้านปีก่อน.

Source: Reuters

Picture: Julius Csotonyi