ในศตวรรษที่แล้ว ผู้หญิงที่เปิดเผยเรียวขาในที่สาธารณะ จะต้องถูกประณามจากสังคม แต่ทุกวันนี้ บรรดานายแบบ นางแบบ กลับกล้าเดินบนแคทวอล์กด้วยเรือนร่างเกือบจะเปลือยเปล่า โดยแทบจะไม่มีใครแปลกใจอีกต่อไป ทำไมความโป๊เปลือยจึงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงในสังคมสมัยใหม่อีกต่อไป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ริก โอเวนส์ ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอเมริกัน พยายามสร้างกระแสฮือฮาให้กับแฟชั่นโชว์คอลเล็กชันวินเทอร์ประจำปี 2015 ของตัวเองที่ปารีส ด้วยการให้นายแบบเดินบนแคทวอล์กโดยไม่ใส่กางเกงใน แถมมีการเจาะรูตรงกลางชุดเพื่อให้เห็นอวัยวะเพศของผู้สวมใส่แบบชัดๆ
แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด แม้หลายเสียงจะวิพากษ์วิจารณ์แฟชั่นโชว์ชุดนี้ของโอเวนส์ แต่ส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางที่ว่าภาพอวัยวะเพศชาย ไม่ได้ทำให้แฟชั่นโชว์ชุดนี้น่าดูขึ้นตรงไหน แต่กลับแทบจะไม่มีใครแสดงอาการตกอกตกใจหรือรับไม่ได้ ที่จู่ๆนายแบบชายก็เปิดเปลือยอวัยวะเพศให้เห็นกันจะๆบนแคทวอล์ก
ปฏิกิริยาที่ว่านี้จะว่าไปก็เป็นการแสดงความเท่าเทียมเสมอภาคทางเพศอย่างน่าชื่นชม เพราะการเปิดเปลือยเรือนร่างของนางแบบเป็นเรื่องปกติธรรมดาบนแคทวอล์กมาหลายปีแล้ว เพราะฉะนั้นจะแปลกอะไรหากนายแบบจะโป๊เปลือยขึ้นมาบ้าง เพื่อพิสูจน์ว่าการเปิดเปลือยร่างกาย ไม่ใช่การทำให้ผู้หญิงตกเป็นวัตถุทางเพศเพื่อสนองสายตาชาย แต่เป็นความจำเป็นทางวิชาชีพ เพื่อให้เรือนร่างของนายแบบและนางแบบสื่อถึงสิ่งที่ดีไซเนอร์ต้องการนำเสนอได้มากที่สุด
แต่อีกเรื่องที่น่าคิด ก็คือเราไม่ทันรู้ตัวเลยว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การเปิดเผยเรือนร่างจนถึงขั้นนู้ด หรือโป๊เปลือย กลายเป็นสิ่งที่สังคมให้การยอมรับ ทั้งที่เมื่อไม่กี่สิบปีที่แล้ว ผู้หญิงหรือผู้ชายที่กล้าเปลื้องผ้าต่อหน้าสาธารณชน หรือยอมถ่ายภาพนู้ด มักถูกมองในทางเดียวว่าเป็นดาวโป๊ หรือเป็นผู้ขายบริการทางเพศ แต่ทุกวันนี้ นอกจากนายแบบนางแบบ เรายังเห็นดาราฮอลลีวูดระดับเอลิสต์ ที่กล้าเปลื้องผ้าถ่ายหนัง หรือถ่ายแบบลงปกนิตยสารระดับโลก แม้แต่บนพรมแดงของงานต่างๆ ก็มีคนดังจำนวนไม่น้อยที่แต่งตัวเปิดเผยเรือนร่างจนแทบไม่เหลืออะไรให้จินตนาการ
อันที่จริง การที่สังคมยอมรับความโป๊เปลือยเหล่านี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องยกความดีให้กับเหล่าคนดัง ที่ไม่แคร์สายตาหรือคำวิจารณ์ใดๆในการเปิดเผยร่างกายและแต่งตัวตามที่ตัวเองปรารถนา เทรนด์ของเหล่าคนดัง ทำให้สังคมเริ่มเคยชิน จนกลายเป็นการยอมรับบรรทัดฐานใหม่ของความโป๊เปลือย ว่าตราบใดที่ยังไม่เห็นอวัยวะเพศแบบชัดเจน ก็ยังถือว่าเป็นสิ่งที่สาธารณชนยอมรับได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
แต่อีกปัจจัยที่มองข้ามไม่ได้ ก็คือการให้ความหมายกับการโป๊เปลือยใหม่ ทั้งโดยเหล่าดารานักแสดงและคนธรรมดาทั่วไป ในระยะ 10-20 ปีมานี้ เราได้เห็นการเปลือยเพื่อแสดงสัญลักษณ์แห่งเสรีนิยม และมนุษยนิยม ในการประท้วงหลายที่ทั่วโลก ที่โด่งดังที่สุดก็คือกลุ่มฟีเมน นักสตรีนิยมแห่งยุโรปตะวันออก ที่เปลือยอกเพื่อแสดงออกถึงความเป็นหญิง ต่อต้านลัทธิชายเป็นใหญ่และระบอบเผด็จการที่ครอบงำสังคม นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกรณีที่หนุ่มๆหรือสาวๆ เลือกถ่ายภาพนู้ดเพื่อหาเงินบริจาคการกุศล หรือช่วยเหลือสังคม
การให้ความหมายใหม่กับความเปิดเปลือยเรือนร่างเช่นนี้ ทำให้โลกกำลังเกิดปรากฏการณ์อันน่าชื่นชม นั่นก็คือการก้าวข้ามบรรทัดฐานทางศีลธรรมจริยธรรมแบบดั้งเดิมที่ลดทอนคุณค่าของมนุษย์เพื่อยกย่องสิ่งที่เหนือกว่าอย่างศาสนาและพระผู้เป็นเจ้า มาสู่การยอมรับในคุณค่าและความหมายของมนุษย์อย่างแท้จริง