ไม่พบผลการค้นหา
กรมควบคุมมลพิษ ยอมรับว่า 'โรงงานอุตสาหกรรม' ยังคงสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ใกล้เคียงมากที่สุด เนื่องจากขาดความตระหนักในการจัดการมลพิษที่เกิดขึ้น

กรมควบคุมมลพิษ ยอมรับว่า 'โรงงานอุตสาหกรรม' ยังคงสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ใกล้เคียงมากที่สุด เนื่องจากขาดความตระหนักในการจัดการมลพิษที่เกิดขึ้น

นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ไทยกำลังประสบปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมหลายด้าน เช่น ขยะมูลฝอย จนต้องประกาศให้เป็น 'วาระแห่งชาติ' โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้เขตเมืองและโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้กำลังการเร่งออกกฎกระทรวงการคัดแยก  เก็บขน  กำจัดมูลฝอย  อัตราค่าทำเนียมการเก็บขน ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุขปี 2535 เพื่อส่งเสริมการคัดแยกขยะมูลฝอย ตั้งแต่ต้นทางจนถึงกำจัดขั้นสุดท้ายอย่างถูกต้อง

ส่วนปัญหาคุณภาพอากาศ ตรวจพบฝุ่นละอองสูงกว่าค่ามาตรฐาน อย่างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งเกิดจากการใช้ยานพาหนะเป็นหลัก  พื้นที่ภาคเหนือ เกิดจากมีการเผาในที่โล่งและไฟป่า  จังหวัดสระบุรี เกิดจากกิจกรรมโรงโม่ เหมืองหิน และปูนซีเมนต์  รวมถึงมาบตาพุด เกิดจากสารอินทรีย์ระเหยง่าย จากโรงงานอุตสาหกรรม และท่าเรือ  ขณะเดียวกัน ก็มีปัญหาด้านก๊าซโอโซนไปพร้อมๆ กันด้วย

และปัญหาคุณภาพน้ำ ได้แก่ น้ำผิวดิน เกิดจากโรงงานอุตสาหรรม แหล่งชุมชน และการเกษตรประเภทปศุสัตว์ ปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำสาธารณะ โดยมีพื้นที่วิกฤต คือ สมุทรปราการ  กรุงเทพฯ และนนทบุรี  ส่วนน้ำทะเลชายฝั่ง พบปัญหาต่ำกว่าเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ 'ชายฝั่งอ่าวไทย' เป็นหลัก  โดยจะมีการขอปรับแก้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารปี 2522 เรื่องการให้อนุญาตการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ต้องคำนึงถึงศักยภาพการรองรับของเสีย และมลพิษของพื้นที่

สำหรับการแก้ปัญหาจากต้นทางมลพิษ คือเร่งสร้างความตระหนักให้แก่ผู้ประกอบการโรงงานอุตสหกรรม เน้นการจัดการภายในโรงงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม จึงมีความจำเป็นต้องบูรณาการทั้งทางตรง และทางอ้อมอย่างเป็นระบบ

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
181Article
60261Video
0Blog