กรมการบินพลเรือน สั่งห้ามสายการบินบิสซิเนสแอร์ ทำการบิน หลังทิ้งผู้โดยสารที่เกาหลีใต้กว่า 700 คน และพบการไม่ซ่อมบำรุงเครื่องบินตามกำหนด และมีภาระหนี้สินจำนวนมาก ด้านสายการบินชี้แจง มีมาตรฐานการบิน ส่วนปัญหาหนี้สินได้ยื่นฟ้องคุ้มครองต่อศาลปกครองกลางแล้ว
นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน เปิดเผย การลงนามคำสั่งให้สายการบินบิสสิเนส แอร์ไลน์ ยุติการให้บริการเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทมีหนี้สินถึง 1,000 ล้านบาท และ มีเครื่องบินให้บริการเพียงลำเดียว ซึ่งขัดต่อกฎที่กำหนดไว้มี 2 ลำ รวมทั้งไม่ได้ซ่อมบำรุงตามแผนการบำรุงรักษา ซึ่งได้ให้โอกาสปรับปรุงฐานะทางการเงินและการให้บริการมาเกือบ 3 เดือน และต้องแก้ปัญหาทั้งหมดภายในวันที่ 15 มกราคม แต่สายการบินไม่สามารถดำเนินการได้ จึงจำเป็นต้องออกคำสั่งห้ามบิน และ ยกเลิกเที่ยวบินทั้งที่เกาหลีใต้และไทย โดยขอเตือนให้ประชาชน อย่าไปซื้อทัวร์หรือตั๋วของสายการบินบิสซิเนส แอร์ไลน์ อย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ นายอนุชา ตีวารี ประธานบริหาร บริษัท บิสสิเนส แอร์เซ็นเตอร์ จำกัด ได้เคยทำหนังสือถึงกรมว่าหากไม่สามารถเคลียร์ปัญหาหนี้สินหรือสภาพคล่องได้ ให้ยกเลิกใบอนุญาตประกอบการบินในเชิงพาณิชย์ด้วย ซึ่งทางกรมจะส่งเรื่องการยกเลิกใบอนุญาตให้กระทรวงคมนาคมต่อไป
ส่วนผู้โดยสารที่ตกค้างที่สนามบินอินชอน เกาหลีใต้ รวม 750 คน บริษัททัวร์ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินให้แล้ว 300 คน เหลืออีก 450 คนที่ต้องเดินทางกลับไทย กรมฯได้ประสานกับทางการบินไทย ให้รับผู้โดยสารกลับแล้ว
ด้านสายการบินบิสซิเนส แอร์ ได้ชี้แจงผ่าน Facebook ของสายการบิน ยืนยันมีความพร้อมในการทำการบินตามมาตรฐานการบินสากล แต่กรมการบินพลเรือน สั่งระงับและขัดขวาง การทำการบิน และสายการบินได้ขอผ่อนผันเงื่อนไข ตลอดจนขออนุญาตทำการบินตามปกติเป็นการชั่วคราว โดยได้นำเรื่องดังกล่าวร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้มีการไต่สวนฉุกเฉิน และมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งมีคำสั่งนัดไต่สวนในวันจันทร์ที่ 19 มกราคมนี้
และกรมฯ ขาดแผนการรองรับ ซึ่งเกิดผลเป็นวงกว้าง และมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ตลอดจนชื่อเสียงของประเทศในด้านธุรกิจการบิน และเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของสายการบิน
สำหรับบริษัท บิสซิเนส แอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการสายการบินแบบเช่าเหมาลำ โดยทำการบินเที่ยวบินแรกในเดือนธันวาคม 2552