เป็นเวลา 58 ปีแล้ว ที่นายกรัฐมนตรีในรัฐบาลทุกยุค จะมอบคำขวัญวันเด็กให้กับเด็กทั่วประเทศ แต่ปีนี้จะเป็นปีแรกที่เด็กไทย มอบคำขวัญกลับให้ผู้ใหญ่บ้าง  โดยพวกเขาใช้วิธีการประกวดเพื่อเลือกคำขวัญที่เหมาะกับยุคสมัยนี้

"ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต" คือคำขวัญวันเด็กประจำปี 2558 ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มอบให้กับเยาวชน แต่ในช่วงเดียวกัน เยาวชนบางกลุ่มก็คิดอยากจะตั้งคำขวัญให้ผู้ใหญ่บ้าง

เปิดกว้างทางความคิด เคารพสิทธิมนุษยชน เข้าใจคนรุ่นใหม่ ประชาธิปไตยพัฒนา คือคำขวัญที่ชนะการโหวตในเพจเฟสบุ๊คของกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท โดยระบุว่าเป็น "คำขวัญวันเด็ก..จากนักเรียนไทยถึงผู้ใหญ่ไทย" ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2

ผู้จัดการโหวตมองว่าคำขวัญวันเด็กที่ผ่านมาของรัฐบาลเต็มไปด้วยถ้อยคำที่ดูดีแต่ซ้ำซาก ซึ่งผู้ใหญ่ในสังคมก็ยังไม่สามารถปฏิบัติเองให้เป็นตัวอย่างได้ ทางกลุ่มจึงต้องการให้มีคำขวัญวันเด็กขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง

กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท เป็นกลุ่มนักกิจกรรมเยาวชน ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยที่ยังมีลักษณะอำนาจนิยม ให้เปิดกว้างต่อการตั้งคำถามและส่งเสริมอิสระทางการคิดวิเคราะห์มากขึ้น

เมื่อเดือนตุลาคม 2557 กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไทเคยแสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายของรัฐบาลที่บังคับให้ท่องจำค่านิยม 12 ประการในระบบการศึกษา และจะนำคำขวัญวันเด็กที่ชนะการโหวตในครั้งนี้มาใช้เป็นคำขวัญประจำกลุ่ม

การแต่งคำขวัญวันเด็กโดยนายกรัฐมนตรี เป็นธรรมเนียมที่เกิดตั้งแต่ปี 2499 สมัยรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งให้คำขวัญวันเด็กครั้งแรกว่า จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม

ในยุคการปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จโดย รัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่กินเวลาเกือบ 5 ปี คำขวัญวันเด็กทุกปีจะใช้วลีที่เป็นเอกลักษณ์ว่า  "ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า" นำหน้าคำขวัญในแต่ละปี 

    
คำขวัญวันเด็กในยุคแรก ซึ่งเป็นช่วงของรัฐบาลทหาร มักจะเน้นการปลูกฝังเรื่องความมีระเบียบวินัย ความสามัคคี ความประพฤติที่อยู่ในกรอบ บางครั้งพูดถึงร่างกายที่แข็งแรง

ในยุคประชาธิปไตยครึ่งใบ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์  เป็นนายกรัฐมนตรีติดต่อกัน 7 ปี คำว่า คุณธรรม เริ่มถูกใช้ในคำขวัญวันเด็กเกือบทุกปี

หลังเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยปี 2535  คำขวัญวันเด็กเริ่มกล่าวถึงประชาธิปไตยเป็นครั้งแรก รวมทั้งเริ่มพูดเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่นคำขวัญในปี 2536 สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ที่ชนะการเลือกตั้งในช่วงนั้น

    
เมื่อมาถึงสมัยรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร คำขวัญวันเด็กมีประเด็นที่แตกต่างมากขึ้น เช่นปี 2545 เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส ช่วงดังกล่าวมีหลายประเด็นที่ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรก เช่น เทคโนโลยี การอ่าน ความสนุก ความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดกล้าพูด  

หลังเกิดวิกฤตการเมือง ที่นำมาสู่รัฐประหารปี 2549 คำว่า คุณธรรม ถูกยกเป็นประเด็นในการต่อสู้ทางการเมือง ทำให้คำขวัญวันเด็กกลับมาเน้นคำว่า คุณธรรมอีกครั้ง

    
และในช่วงของการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน คำว่า อาเซียน ถูกใส่เข้ามาในคำขวัญ ในปี 2556 สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เกือบ 60 ปีที่ผ่านมา คำขวัญวันเด็กต่างสะท้อนค่านิยมที่รัฐบาลในแต่ละยุคต้องการปลูกฝังเยาวชน

จากการตั้งคำขวัญทั้งหมด 57 ครั้ง พบว่าประเด็นที่ถูกเน้นเป็นอันดับต้นๆคือ เรื่องวินัย ที่ถูกกล่าวถึง 18 ครั้ง และเรื่อง คุณธรรม 15 ครั้ง ส่วนเรื่องประชาธิปไตย มีเพียง 4 ครั้ง เช่นเดียวกับเรื่องการอ่าน และ เทคโนโลยี ซึ่งสำคัญต่อการเรียนรู้ของเด็ก ถูกกล่าวถึงเพียง 2 ครั้งเท่านั้น