หนึ่งในโศกนาฏกรรมของปีนี้ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เหตุเรือเฟอร์รีของเกาหลีใต้อับปางลงก่อนถึงจุดหมายปลายทางที่เกาะเชจู จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 300 ราย
โครงสร้างที่ไม่แข็งแรง การบรรทุกน้ำหนักไม่ตรงตามที่กำหนด และความขาดประสบการณ์ของบุคลากร ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เรือขนาดใหญ่อับปางได้ทั้งสิ้น และสำหรับกรณีของเรือเฟอร์รีเซวอลนั้น ก็มีสาเหตุมาจากทั้งสามข้อรวมกัน
เช้าวันพุธที่ 16 เมษายน 2557 เรือเซวอลกำลังมุ่งหน้าจากเมืองอินชอนสู่เกาะเชจูตามตารางเวลาที่กำหนด โดยมีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 476 คน ครึ่งหนึ่งของน้ำหนักผู้โดยสาร ที่เจ้าของเรืออ้างว่าเซวอลสามารถบรรทุกได้
เซวอลถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2537 โดยบริษัทญี่ปุ่น และใช้เดินเรืออยู่แค่ภายในน่านน้ำญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 18 ปี ก่อนที่บริษัทชองแฮจินของเกาหลีใต้ จะซื้อมาดัดแปลงเพื่อใช้งานต่อเมื่อปี 2555 ในราคา 11,600 ล้านวอน หรือราว 347 ล้านบาทในอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
หลังได้เรือมาครอบครอง บริษัทชองแฮจินจึงทำการต่อเติม เพื่อให้รองรับผู้โดยสารได้มากกว่าเดิม ทำให้ศูนย์ถ่วงเรือมีปัญหา นอกจากนี้ยังได้ยื่นขอบรรทุกสินค้าเกือบ 2,000 ตัน ซึ่งต่อมากรมทะเบียนเรือ ได้ปรับลดน้ำหนักบรรทุกสินค้าของเซวอลลงเหลือครึ่งหนึ่ง และกำหนดให้ต้องบรรทุกน้ำอับเฉาถึง 2,000 ตัน เพื่อให้เรือสามารถทรงตัวอยู่ได้
ในวันเกิดเหตุ กัปตันอีจุนซอก วัย 69 ปี ไม่ได้อยู่ในห้องควบคุมเรืออย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับสั่งให้ลูกเรือเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่างแทน ซึ่งเมื่อเรือเข้าสู่ช่องแคบ ที่เต็มไปด้วยโขดหินและคลื่นแรงใต้ทะเล ลูกเรือที่ไม่มีประสบการณ์มากพอก็ตัดสินใจผิดพลาด
การหันหัวเรือกะทันหัน และกระปุกพวงมาลัยเรือที่ทำงานขัดข้อง เป็นปัจจัยที่ทำให้เซวอลศูนย์เสียการทรงตัว นอกจากนี้ การบรรทุกสินค้าที่ไม่สมดุลและเกินน้ำหนักมาตรฐาน คอนเทนเนอร์สินค้าที่จัดวางอย่างไม่รัดกุม รวมถึงน้ำอับเฉาที่มีน้อยกว่าที่ทางการกำหนด ก็ล้วนเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เซวอลพลิกคว่ำในที่สุด
เมื่อเกิดปัญหาขึ้น แทนที่กัปตันอีจุนซอก จะลำเลียงผู้โดยสารไปยังเรือชูชีพ กลับออกคำสั่งให้ทุกคนอยู่ประจำที่รอคำสั่งต่อไป ขณะที่ เรือประมงและเรือพาณิชย์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็ทยอยเข้าให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารบริเวณดาดฟ้าเรือและผู้โดยสารที่กระโดดลงทะเลเพื่อเอาชีวิตรอด
ส่วนกัปตันอีจุนซอกและลูกเรืออีกจำนวนหนึ่ง ก็เลือกที่จะสละเรือและหลบหนีออกมา ทำให้คนที่ยังติดค้างอยู่ภายในตัวเรือชั้นต่างๆ รวม 304 รายเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 ที่กำลังจะไปทัศนศึกษา แต่กลับต้องมาพบจุดจบอันน่าเศร้า สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเกาหลีทั้งประเทศ รวมถึงคนที่ทราบข่าวทั่วโลก
วันที่ 15 พฤษภาคม กัปตันอีจุนซอก หัวหน้าวิศวกรประจำเรือ และลูกเรืออีก 2 คนถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตาย ขณะที่ ลูกเรืออีก 11 คนถูกตั้งข้อหาละสละเรือละทิ้งหน้าที่ และเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ศาลได้ตัดสินให้กัปตันอีจุนซอกรับโทษจำคุก 36 ปี หัวหน้าวิศวกรรับโทษจำคุก 30 ปี ส่วนลูกเรือที่เหลือรับโทษจำคุกระหว่าง 5 ถึง 20 ปี