ไม่พบผลการค้นหา

จากความขัดแย้งเกี่ยวกับกรณีพื้นที่พิพาทเรื่องเขาพระวิหาร ระหว่างทางการไทยและกัมพูชา  ตัวละครสำคัญที่หลายฝ่ายเชื่อว่าน่าจะสามารถเข้ามายุติสถานการณ์ความขัดแย้งนี้ได้ คือ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก

วันนี้เราขอพาคุณผู้ชมไปทำความรู้จักกับองค์กรแห่งนี้ รวมถึงคดีความสำคัญในอดีต ที่ศาลโลกเคยมีส่วนร่วมพิจารณา

อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ท ออฟ จัสติส ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2489 ตามกฏบัตรสหประชาชาติ เพื่อสืบต่อหน้าที่ของ ไอพีซีเจ หรือศาลสถิตยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่ยุติไปพร้อมกับองค์การสันนิบาตชาติ

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ อยู่ในการควบคุมขององค์การสหประชาชาติ มีอำนาจในการพิจารณาตัดสินคดีใดๆ ที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง 2 ประเทศขึ้นไป แต่คู่กรณีทั้งสองต้องยินยอมรับอำนาจของศาลก่อน ศาลโลกจึงจะมีอำนาจพิจารณาตัดสินคดีนั้น

ตลอดการทำงานกว่า 64 ปี ศาลโลกพิจารณาคดีไปแล้วทั้งหมด 151 คดี สามารถแบ่งจำแนกได้เป็นสองลักษณะใหญ่ๆตามหน้าที่การพิจารณาคดีของศาล คือ ทำการตัดสินข้อพิพาท และทำการตัดสินเพื่อมอบคำแนะนำในการยุติความขัดแย้ง

คำตัดสินของศาลโลกกว่า 151 คดี มีคดีความที่น่าสนใจมากมาย เช่น กรณีเมื่อปี 2498 ที่สหรัฐอเมริกา ยื่นคำฟ้องต่อศาลโลก ให้สหภาพโซเวียตรับผิดชอบความเสียหาย ซึ่งเกิดจากการโจมตีเกาะฮอกไกโด ของประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2495 แต่เนื่องจากทางสหภาพโซเวียตปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกระบวนการตัดสิน ทำให้ศาลโลกมีคำสั่งประกาศยกคำร้องในปี 2499

กรณีที่ทางการนิการากัว ยื่นฟ้องว่าสหรัฐอเมริกา มีส่วนร่วมในการสนับสนุนกลุ่มกองโจร และกองกำลังต่อต้านรัฐบาลในประเทศ เมื่อปี 2489 โดยศาลโลกมีคำตัดสินในวันที่ 27 มิถุนายน 2529 ว่าทางการสหรัฐฯ กระทำความผิดจริง แต่ทั้งนี้ รัฐบาลกรุงวอชิงตันในขณะนั้น ได้ปฏิเสธการมีส่วนร่วม และได้มีการกีดขวางการบังคับใช้กฏหมายของคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งทำให้คำร้องและความพยายามของนิการากัวต้องประสบความล้มเหลว

กรณีที่เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ส่งเรื่องขอคำแนะนำจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2546 เกี่ยวกับความชอบธรรมในการก่อสร้างกำแพงของรัฐบาลอิสราเอล บริเวณกรุงเยรูซาเล็มตะวันออก ซึ่งอยู่ในการดูแลของทางการปาเลสไตน์ โดยศาลโลก ประกาศคำตัดสิน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2547 แสดงความเห็นให้มีการทำลายกำแพง ในดินแดนที่ชาวปาเลสไตน์ครอบครอง โดยประชาชนชาวอาหรับจะต้องได้รับเงินค่าชดเชย จากความเสียหายที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันศาลยังมีคำสั่งแนะนำว่า สมัชชาสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคง ควรเป็นผู้ที่เข้ามารับบทบาทบังคับใช้คำสั่งดังกล่าว แต่ผลสุดท้ายกำแพงดังกล่าวยังไม่ถูกทำลายแต่อย่างใด

Produced by VoiceTV

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog