ศาลโลกมีมติ 11 ต่อ 5สั่ง"ไทย-เขมร"ถอนทหารออกจากพื้นที่ โดยรอบ"ปราสาทพระวิหาร" เพื่อต้องการให้เกิดสันติภาพ" แต่หลายฝ่ายยังเป็นห่วงอนาคตไทยอาจเสียเปรียบหากให้กัมพูชาอยู่ในพื้นที่

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า สิ่งที่ศาลโลกตัดสินออกมาเป็นสิ่งที่ไทยคาดหวังไว้แต่แรกอยู่แล้ว  ไม่ว่าจะเป็นการให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายถอนออกจากพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากกำลังทหารของกัมพูชามีมากกว่าฝ่ายไทย นอกจากนี้แผนที่ที่ศาลโลกนำมาประกอบกับคำสั่งพื้นที่ที่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายถอนกำลังออก  อยู่ที่ประมาณ 3.5-3.7 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น   นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยินดีที่จะให้กลไกทวิภาคีผ่านคนกลางหรือประเทศอินโดนีเซีย เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา     

นายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตเอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ให้ความเห็นว่าคำสั่งที่ให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายออกจากพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร แต่ไม่ได้มีคำสั่งถึงการอพยพพลเรือนกัมพูชาออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วยนั้น ในอนาคตประเทศไทยอาจเสียเปรียบ เพราะหากมีผู้สังเกตการณ์เข้ามาในพื้นที่ แล้วเห็นประชาชนกัมพูชาอยู่ในบริเวณนั้น แต่ไม่เห็นคนไทย ก็อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด

ด้านนายคำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่ประเด็นที่ นายกษิต ภิรมย์ ระบุว่าเขตปลอดทหารมีพื้นที่ครอบคลุม 3.5 - 3.75 ตร.กม. มีขนาดเล็กกว่า 4.6 ตร.กม.  แต่คำสั่งของศาลโลกยุติธรรมต่อฝ่ายไทยหรือไม่ นอกจากจะบังคับให้ไทยถอนทหารออกจากแผ่นดินไทยแล้ว ยังให้ไทยรายงานต่อนานาชาติ ภายใต้สังเกตุการณ์ของอินโดนีเซีย  วันนี้แม้ไทยยังไม่เสียดินแดน  แต่ต้องยอมรับว่า โอกาสที่เราจะสูญเสียในอนาคตมีมาก ส่วนกัมพูชาแม้วันนี้จะไม่ชนะ เพราะศาลโลกไม่คุ้มครอง แต่ก็ถือว่ากัมพูชาเสมอตัว ชุมชนและวัดก็ยังคงอยู่ ยังสามารถส่งกำลังบำรุง โดยที่ไทยทำอะไรไม่ได้

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าพรุ่งนี้จะมีการประชุมความมั่นคง ร่วมกับทหาร กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อวางแนวทางลดความตึงเครียดระหว่างประเทศ และดูรายละเอียดคำสั่งของศาลโลกว่าจะมีผลกระทบต่อกฎหมายของประเทศหรือไม่ แต่คดีนี้ไม่มีผลอธิปไตยของไทย ส่วนการถอนทหารขึ้นกับการประชุม GBC

สำหรับมติของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศโลกที่ออกมากระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า มีคำพิพากษาต่อกรณีมาตรการชั่วคราว ในคดีข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร ระหว่างไทย-กัมพูชา  6 ข้อ คือ

(1) ให้ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ควรถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ปลอดทหารชั่วคราวที่กำหนดโดยทันที
(2) ให้ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา หลีกเลี่ยงการเข้าไปของกำลังทหารในพื้นที่ดังกล่าว และหลีกเลี่ยงการมีกิจกรรมทางทหารใดๆในพื้นที่ปลอดทหารดังกล่าว
(3) ห้ามให้ฝ่ายไทยขัดขวางการเข้าออกพื้นที่ปราสาทฯ และพื้นที่ปลอดทหาร ของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ใช่ทหารของกัมพูชาเพื่อส่งกำลังบำรุง
(4) ให้ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ร่วมมือกับอาเซียนต่อไป และอนุญาตให้คณะผู้สังเกตการณ์ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าไปในพื้นที่ปลอดทหาร ชั่วคราวดังกล่าว
(5) ฝ่ายไทยและกัมพูชา ควรหลีกเลี่ยงจากการกระทำใดๆที่อาจทำให้สถานการณ์รุนแรง หรือมีความขัดแย้งมากขึ้น จนทำให้แก้ไขปัญหาได้ยากขึ้น
(6) ฝ่ายไทยและกัมพูชา ต้องแจ้งผลการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลฯต่อศาล ศาลยังคงอำนาจพิจารณาเรื่องคำสั่งมาตรการชั่วคราวต่อไป จนถึงการพิจารณาตีความ
   

 ด้านนายฮอร์นัมฮง รองนายกรัฐมนต ของกัมพูชา บอกว่ารู้พอใจต่อคำตัดสินของศาลโลกเพราะว่าได้ปฎิเสธคำของร้องของไทย และเป็นคำสั่งหยุดยิงถาวรระหว่างไทยกับกัมพูชา เนื่องจากได้กำหนดเขตปลอดทหารขึ้นมา

Produced by VoiceTV