รำลึก 16 ธ.ค.'วันกีฬาแห่งชาติ' การกีฬาแห่งประเทศไทยจัดงาน"สัปดาห์วันกีฬาแห่งชาติ" บริเวณลานพลาซ่า อินเดอร์สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก มีการจัดกิจกรรมมากมาย นิทรรศการวันกีฬาแห่งชาติซึ่งมีการฉายภาพวีดิทัศน์ พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและกิจกรรมบนเวที 

วันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันกีฬาแห่งชาติ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นนักกีฬาตัวแทนของชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ทรงชนะเลิศการแข่งขันเรือใบประเภท โอเค เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2510 ซึ่งเป็นวันประวัติศาสตร์ทางการกีฬาของประเทศไทย ซึ่งยังความปลื้มปีติ และชื่นชมแก่ประชาชนทั่วประเทศ 

ขณะที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้จัดงานวันกีฬาแห่งชาติ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนชาวไทยเห็นคุณค่าความสำคัญของการกีฬา 
          
นายมนตรี ไชยพันธุ์ รองผู้ว่าการ กกท.รักษาการแทน ผู้ว่าการ กกท.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการจัดงานวันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2557 กล่าวว่า ในวันที 16 ธันวาคมประจำปี 2557 เป็นปีที่ กกท. ครบรอบ 50 ปี จึงถือเป็นปีพิเศษ ที่จะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยกำหนดให้เป็น "สัปดาห์วันกีฬาแห่งชาติ" ระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2557 ณ บริเวณลานพลาซ่า อินเดอร์สเตเดี้ยม สนามกีฬาหัวหมาก
          
"งานสัปดาห์วันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2557" มีพิธีเปิดในวันที่ 16 ธันวาคม 2557 และมีการจัดกิจกรรมมากมายประกอบด้วย การจัดนิทรรศการวันกีฬาแห่งชาติซึ่งมีการฉายภาพวีดิทัศน์ พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, กิจกรรมบนเวที อาทิ การสัมภาษณ์นักกีฬาที่มีชื่อเสียง, การออกบูธร้านค้าจำหน่ายเสื้อผ้า, อุปกรณ์กีฬาต่างๆ ในราคาพิเศษ จากบริษัทที่อยู่ในระบบสิทธิประโยชน์กลางของ กกท., การออกบูธจัดกิจกรรมสาธิตกีฬาของสมาคมกีฬาต่างๆ, กิจกรรมร่วมสนุกบนเวที, การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย จากศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท., การเปิดพิพิธภัณฑ์กีฬาแห่งชาติให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรี ฯลฯ รวมทั้งการแสดงจากนักกีฬาที่เป็นศิลปินนักร้องชื่อดังมากมายมาร่วมแสดงในงานครั้งนี้

และในวันสุดท้ายของ "งานสัปดาห์วันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2557" ในวันที่ 22 ธันวาคม 2557 จะจัดให้มีงานประกาศเกียรติคุณนักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2557 โดยมีการมอบรางวัล จำนวน 10 ประเภท ได้แก่ 1. นักกีฬาสมัครเล่น (ชาย-หญิง) ดีเด่น และรองดีเด่น, 2. นักกีฬาเยาวชนสมัครเล่น (ชาย-หญิง) ดีเด่นและรองดีเด่น, 3. นักกีฬาอาชีพดีเด่นและรองดีเด่น, 4. นักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่นและรองดีเด่น, 5. นักกีฬาพิการดีเด่น, 6. ชนิดกีฬาดีเด่นและทีมกีฬาดีเด่น, 7. ผู้ฝึกสอนกีฬาดีเด่น ประกอบด้วย ผู้ฝึกสอนกีฬาสมัครเล่น, ผู้ฝึกสอนกีฬาต่างประเทศ, ผู้ฝึกสอนกีฬาอาชีพ, ผู้ฝึกสอนนักกีฬาส่วนภูมิภาค และผู้ฝึกสอนนักกีฬาคนพิการดีเด่น), 8. สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยดีเด่น, 9. สมาคมกีฬาจังหวัดดีเด่น และ 10. บุคลากรทางการกีฬาดีเด่น (ผู้บริหาร, นักวิชาการ, ผู้จัดการทีม, ผู้ตัดสิน)
          
สำหรับนักกีฬาที่ได้รับรางวัลดีเด่น 8 รางวัล ประกอบด้วย 1. นักกีฬาสมัครเล่นดีเด่นชาย 2. นักกีฬาสมัครเล่นดีเด่นหญิง 3. นักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นดีเด่นชาย 4. นักกีฬาเยาวชนสมัครเล่นหญิง 5. นักกีฬาอาชีพดีเด่น 6. นักกีฬามวยไทยอาชีพดีเด่น 7 นักกีฬาคนพิการดีเด่นชาย และ 8. นักกีฬาคนพิการดีเด่นหญิง จะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, เสื้อเบลเซอร์, เข็มเกียรติคุณ (เข็มทอง) และใบประกาศนียบัตร ส่วนนักกีฬาที่ได้รับรางวัลรองดีเด่น จะได้รับโล่รางวัล, เข็มเกียรติคุณ (เข็มเงิน) และใบประกาศนียบัตร
          
ส่วนบุคลากรทางการกีฬาดีเด่น 4 สาขา ประกอบด้วย ผู้บริหารดีเด่น, นักวิชาการดีเด่น, ผู้จัดการทีมดีเด่นและผู้ตัดสินดีเด่น รวมทั้ง ชนิดกีฬาดีเด่นและทีมกีฬาดีเด่น, ผู้ฝึกสอนกีฬาดีเด่น, สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยดีเด่นและสมาคมกีฬาจังหวัดดีเด่น จะได้รับโล่รางวัลและใบประกาศนียบัตร
          
นอกจากนี้ สำหรับในปี 2557 นับเป็นปีที่ กกท. ครบรอบ 50 ปี จึงจะมีการมอบรางวัลพิเศษ สำหรับนักกีฬาที่ทรงคุณค่าจำนวน 2 รางวัล แบ่งเป็นชาย 1 รางวัล และ หญิง 1 รางวัล โดยจะมีการพิจารณาให้นักกีฬาที่มีคุณลักษณะพิเศษ โดยการเป็นตัวอย่างที่ดีต่อประชาชน มีผลงานในการแข่งขันดีเยี่ยม และทำคุณประโยชน์ต่อสังคม อีกด้วย เพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 50 ปี กกท.อีกด้วย