Green Voice ประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2557
แต่ละประเทศมักมีเอกลักษณ์ประจำชาติที่ทำให้ทั่วโลกจดจำ อย่างเช่นในฟิลิปปินส์ที่รถจี๊ปนีย์ดูจะได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งชาวฟิลิปปินส์และชาวต่างชาติ ซึ่งล่าสุดก็มีรถจี๊ปนีย์พลังงานไฟฟ้าผลิตออกมาสู่ท้องตลาดแล้วด้วย
หนึ่งในขนส่งมวลชนที่ได้รับความนิยมมากและเป็นเอกลักษณ์ของประเทศฟิลิปปินส์ก็คือ รถจี๊ปนีย์ ซึ่งดัดแปลงมาจากรถจี๊ป จัดอยู่ในประเภทเดียวกับรถสองแถว และมีเครื่องยนต์ดีเซลเสียงดังเป็นจุดเด่น
แต่ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนเริ่มตระหนักถึงปัญหามลพิษทางอากาศมากขึ้นเรื่อยๆ กลับทำให้รถสาธารณะเครื่องยนต์ดีเซลที่ปล่อยควันพิษสู่ชั้นบรรยากาศชนิดนี้กลายเป็นภัยต่อสภาพแวดล้อมตามไปด้วย
ด้วยเหตุนี้บริษัทโกลบอลอิเล็กทริก บริษัทผลิตพาหนะสัญชาติอเมริกัน จึงคิดค้นรถจี๊ปนีย์รุ่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรีลิเธียมไอออนที่เรียกว่า "โคเมต" (COMET) ซึ่งย่อมาจาก City Optimised Managed Electric Transport หรือที่แปลว่ายานพาหนะใช้ไฟฟ้าสำหรับสัญจรในเมือง
ทั้งนี้ นายเคน มอนต์เลอร์ ซีอีโอของบริษัทโกลบอลอิเล็กทริก เปิดเผยว่าชาวฟิลิปปินส์ถึงร้อยละ 40 เดินทางโดยอาศัยรถจี๊ปนีย์เป็นหลัก เพราะฉะนั้นการผลิตรถจี๊ปนีย์ชนิดที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่จะช่วยลดปริมาณก๊าซพิษในอากาศลงได้อย่างเห็นได้ชัด
รถจี๊ปนีย์เกิดจากการนำรถจี๊ปของทหารอเมริกันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาดัดแปลง ซึ่งคำว่า "จี๊ปนีย์" มาจากคำในภาษาอังกฤษ คือ "จี๊ป" (Jeep) กับ "นีย์" (Knee) ที่หมายถึง "หัวเข่า" เนื่องจากรถจี๊ปนีย์ในสมัยก่อนจะมีผู้โดยสารนั่งกันแออัดจนหัวเข่าชนหัวเข่านั่นเอง
ในเวลาต่อมา เมื่อสงครามโลกยุติลง ทหารอเมริกันก็ได้ทิ้งรถจี๊ปไว้เป็นจำนวนมาก จึงมีผู้นำมาดัดแปลงเป็นรถโดยสารและใช้กันอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็เป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นฟิลิปปินส์ได้อย่างดี
บริษัทโกลบอลอิเล็กทริกระบุว่า การชาร์จแบตเตอรี 1 ครั้งจะกินเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง และจะทำให้รถวิ่งได้ราว 100 กิโลเมตร หากบรรทุกผู้โดยสารเต็มที่ที่ 18 คน ซึ่งล่าสุดก็ได้มีบริษัทขนส่งขนาดใหญ่สั่งซื้อไปแล้วถึง 5,000 คัน และเตรียมให้บริการเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้