ไม่พบผลการค้นหา
รายงานพิเศษชุดอารยธรรมพุทธภูมิ ตอน 'เมืองโอชาร์'

รายงานพิเศษชุดอารยธรรมพุทธภูมิ ตอน 'เมืองโอชาร์'

โอชาร์ เมืองเล็กๆ ในยุคกลางของอินเดีย สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่  16  ปกครองโดยราชวงศ์ราชปุต ภัณฑาละตั้งอยู่บนเกาะกลางของแม่น้ำเบตวา  ในแคว้นมัธยประเทศทางตอนกลางของอินเดีย  อยู่ห่างจากเมืองคาจูราโฮที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก170  กิโลเมตร

เมืองโอชาร์ที่ปกครองโดยราชวงศ์ภัณฑาละ  ตกอยู่ในสถานะเมืองบริวารของราชวงศ์โมกุล ที่ปกครองอินเดียทางตอนเหนือในช่วงคริสตวรรษที่ 16 ถึง 19    กษัตริย์ผู้ปกครองเมืองโอชาร์ต้องส่งเครื่องราชบรรณาการให้แก่ราชสำนักของจักรวรรดิโมกุล  ยุครุ่งเรืองของจักรวรรดิโมกุล คือ ยุคพระเจ้าอัคบาร์ทรงแผ่ขยายอาณาเขตการปกครอง  ทรงใช้กุศโลบายการแต่งงานกับเจ้าหญิงฮินดู  เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างศาสนาอิสลามกับศาสนาฮินดู ทรงให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา และยกเลิกการเก็บภาษีศาสนา เพื่อให้ชาวฮินดู อิสลาม และศาสนาอื่น ๆ สามารถอยู่ร่วมกันได้

จุดที่น่าสนใจของเมืองโอชาร์ คือ ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่สร้างรายล้อมพระราชวัง ซึ่งเป็นสถานที่พำนักของมหาราชา  ป้อมปราการถือเป็นด่านสุดท้ายของเมือง ถ้าตีป้อมปราการแตกก็หมายถึงยึดเมืองนั้นได้

จุดแรกที่นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเมืองโอชาร์ต้องไม่พลาด คือ พระราชวังราชมาฮาล สร้างในสมัยพระเจาบีซิงค์เดโอแห่งราชวงศ์ภัณฑาละ  ราชวงศ์ที่ปกครองเมืองโอชาร์เกือบ 200 ปี ระหว่าง คศ.1531- 1783 พระราชวังราชมาฮาลมีห้องราว 132  ห้องแบ่งเป็น 4 ชั้น   ชั้นล่างเป็นที่อยู่ของทหาร  ชั้นที่สอง นางสนม คนรับใช้  ชั้นที่ 3 เป็นสถานที่ประทับของมหาราชา  ส่วนชั้นที่ 4 เป็นที่ประทับของมหาราชินี   ซึ่งในยุคพระเจ้าบีซิงค์เดโอทรงมีพระมเหสี 6 พระองค์   ห้องที่ชั้น 4  จึงมี  6 ห้อง และมีช่องทางเดินลับ สู่ห้องมเหสีแต่ละองค์ด้วย   ศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นการผสมผสานระหว่างฮินดู กับอิสลาม   เช่น ภาพเขียนรูปดอกไม้ได้รับอิทธิพลจากศาสนาอิสลาม ส่วนรูปเขียนสัตว์ เช่นวัว  ได้รับอิทธิพลจากศาสนาฮินดู

ไฮไลท์อีกจุดหนึ่งคือ พระราชวังซาฮังกรี  ที่สร้างขึ้นอย่างงดงามอลังการ เพื่อต้อนรับ พระเจ้าซาฮังกรี กษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล ที่เดินทางมาพักค้างคืนเพียงแค่ 1 ราตรีเท่านั้น   แต่ถือเป็นความชาญฉลาดของกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองโอชาร์ ที่ใช้วิเทศโศบายทางการทูตเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2  ราชวงศ์ที่ต่างศาสนา และตกอยู่ในฐานะเมืองบริวาร  

ความงดงามของสถาปัตยกรรมพระราชวังซาฮังกรีห์ ปรากฎให้เห็นผ่านระเบียง และเชิงชายกว้าง ทำให้เกิดความสมดุลย์กับโครงสร้างบังตาที่ฉลุเป็นช่อง  มีโดมขนาดใหญ่เป็นเหมือนป้อมปราการ  และเมื่อมองจากด้านบนพระราชวังจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของแม่น้ำเบตวา และป้อมปราการภายนอก

เมืองโอชาร์ในวันนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะมี "ความเงียบสงบ"ต่างจากเมืองใหญ่ ๆอื่นของอินเดีย   ประชากรที่อาศัยในเมืองโอชาร์มีไม่เกิน 10,000 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  และยังคงรักษาค่านิยมเรื่องระบบชนชั้นวรรณะเอาไว้อย่างเหนียวแน่น รวมถึงการแต่งงานแบบคลุมถุงชน

โอชาร์ยังมีความหมายว่า  เร้นลับ  ซ่อนเร้น  แต่ในวันนี้เมืองโอชาร์  ไม่ได้เก็บตัวซ่อนเร้นอีกต่อไป เพราะความงดงามของโบราณสถาน ประวัติศาสตร์ความเป็นมา  ร่องรอยอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ที่ปรากฎชัดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog