เรียกได้ว่างงไปตามๆกันกับการประกาศยกเลิกคอนเสิร์ตทัวร์ทั่วประเทศของวงร็อกอันดับ1อย่าง Bodyslam หลังจากเกิดกระแสดราม่าในโลกออนไลน์ กรณีที่มีผู้สนับสนุนเข้ามาจัดโปรโมชั่นในการลดราคาบัตรจาก 1500 บาทเหลือเพียง 399บาท ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจของคนที่ซื้อบัตรราคาเต็ม หรือแม้กระทั่งคนที่ซื้อบัตรก่อนช่วงพรีเซลส์ในราคา 900 บาท

ถึงแม้จะมีการชดเชยด้วยจะมีการโฟโต้อัลบั้มแต่ก็ยังไม่สามารถต้านกระแสการเสียความรู้สึกของแฟนๆได้ และสุดท้ายจำต้องยกเลิกการทัวร์กระทันหันจากเดิมมีแผนจะจัด 30 จังหวัด 32โชว์อีเวนท์ ซึ่งมีการให้สัมภาษณ์จาก ยุทธนา บุญอ้อม ผู้จัดคอนเสิร์ตว่าประสบปัญหาขาดทุนระดับ 20-30 ล้าน และถ้าหากไม่หยุดก็อาจจะเพิ่มไปถึงครึ่งร้อยล้าน” ทำให้เกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับวงร็อกอันดับ1 ของไทย ที่ “จะออกไปแตะขอบฟ้า แต่เหมือนว่าโชคชะตาไม่เข้าใจ”

1.“มั่นใจในฉันสิ เชื่อในฉันสิจะบุกน้ำหรือลุยไฟ ฉันยอมไป” (จากเพลง “ให้รักคุ้มครอง” อัลบั้ม “Drive”)

แน่นอนว่าปฏิเสธได้ยากในรอบทศวรรษที่ผ่านมาจะหาวงดนตรีที่ดังเทียบเท่ากับ Bodyslamนั้นไม่มี สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขามั่นใจในตัวเอง เมื่อประกาศการทำคอนเสิร์ตใหญ่แบบตระเวนเล่นทัวร์ทั่วประเทศย่อมสร้างความฮือฮา ด้วยสเกลงานระดับใหญ่ที่จัดเต็มโดยเฉพาะเวทีคอนเสิร์ตที่ถอดประกอบโดยใช้รถคอนเทนเนอร์กว่า 20คันขนไปติดตั้งในทุกๆที่ที่ทำการแสดง ตูน ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ที่นี่หมอชิต”ว่า “ต้องการให้คนต่างจังหวัดได้เห็นงานระดับคุณภาพ ที่เทียบเท่ากับเวลาเล่นที่กรุงเทพ” ทำให้ทีมผู้จัดลงทุนครั้งนี้เพื่อคืนกำไรผู้ชมมากๆ ซึ่งแน่นอนแปลว่าค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย

2.“มีสตางค์ก็คงจะดีนะเออเพียงแต่คนอย่างเราน่ะมันไม่ค่อยจะมี”  (จากเพลง “คนมีตังค์” อัลบั้ม “Save My Life”)

ด้วยต้นทุนข้างต้นทำให้การทำราคาบัตรจึงจำเป็นต้องสูงหากคำนวนถึงอัตราความคุ้มทุนและกำไร แต่การประเมินที่ผิดพลาดคือ หากไม่ใช่กรุงเทพฯและจังหวัดใหญ่ๆอย่างเชียงใหม่ ขอนแก่น ราคาบัตร 1500 บาท กลุ่มผู้ชมจะหาเงินจากไหนมาชมคอนเสิร์ตแบบนี้ได้ และจะต้องมีผู้ชมกี่คนถึงจะคุ้มต่อ1โชว์ จากการรายงานของรายการ “เรื่องเล่าเสาร์ - อาทิตย์” การแสดงที่นครราชสีมา ในวันที่ 8 พฤศจิกายน อันเป็นโชว์สุดท้าย มีผู้เข้าชมเพียงหลักพัน ถ้าหากคำนวนแม้ทุกๆคนจะมีราคาบัตรเต็มๆ ก็จะเก็บค่าผ่านได้ประมาณ 1.5ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเสี่ยงต่อการขาดทุนเป็นอย่างมาก สาเหตุหนึ่งที่ลืมคิดคือว่า เวลาจัด “Live in คราม”ที่รัชมังคลากีฬาสถาน คนทั่วประเทศเดินทางมาชมการแสดงพวกเขาย่อมเป็นแฟนพันธุ์แท้ แต่มันไม่สามารถคำนวนแบบคณิตศาสตร์ได้ว่า ค่าเฉลี่ยต่อแต่ละจังหวัดจะเท่ากับเท่าไหร่ที่จะมาชมคอนเสิร์ตแบบทัวร์ระดับนี้

3.“ ก็เพราะว่าเรายังมือใหม่ ยังเป็นคนใหม่ ต้องขออภัยที่ยังไม่รู้” (จากเพลง “มือใหม่” อัลบั้ม “Bodyslam”)

มือใหม่ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าความเจนจัดทางดนตรีเพราะพวกเขาคือสุดยอด แต่พวกเขาผิดพลาดในทางธุรกิจอย่างมหาศาล ที่ประเมินผิดพลาดในการจัดโชว์ที่มากเกินตัวไป การทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้แตกต่างจากการทัวร์ธรรมดาของเขาที่มีคนจ้างไปแสดงยังที่ต่างๆ แต่นี่คือการลงทุนของ GMM Grammy ถึงแม้จะมีสปอนเซอร์หลายแบรนด์ และสุดท้ายจำเป็นต้องมีสปอนเซอร์ใหญ่ออกหน้า3เจ้าในการซับซิไดซ์ราคาบัตรให้เหลือ 399บาทแต่ก็ถูกกระแสตีกลับ ซึ่งความสำเร็และล้มเหลวอยู่ที่เส้นบางๆ หากพวกเขาทำได้ทุกโชว์เขาจะเป็นตำนานไปตลอดกาล เพราะหากมองย้อนไปศิลปินใหญ่ที่ตระเวนโชว์ทั่วประเทศนั้นอยู่ในสเกลที่พอควบคุมได้ เช่น เบิร์ด ธงไชย ตอนคอนเสิร์ต ฟ.แฟนฟันแฟร์ อัลบั้ม “แฟนจ๋า” ก็เลือกเฉพาะหัวเมืองใหญ่ๆ คอนเสิร์ตคนหัวใจสิงห์ของอัสนี-วสันต์ ที่ได้สปอนเซอร์ใหญ่ที่พร้อมจะรับผิดชอบต้นทุนทำให้ขายราคาบัตรที่ต่ำลงได้ หรือแม้กระทั่งล่าสุด “แก๊งค์ 3 ช่า Carniwow”ที่ตระเวนเล่น 50จังหวัดก็มีสปอนเซอร์ใหญ่ธนาคารกสิกรไทยและสปอนเซอร์ย่อยจำนวนมากและยังเป็นรูปแบบกึ่งโชว์วาไรตี้ที่เรียกผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย แต่ Bodyslamเป็นคอนเสิร์ตเพียวๆกับราคาบัตรขนาดนี้ และจำนวนรอบขนาดนี้ถือว่าเกินตัวไปพอสมควร

4. “มันน่าจะถูกที่ใครบอกไว้ ความรักมันทำให้ตาบอดจนมองไม่เห็นความจริง” (จากเพลง “ความรักทำให้คนตาบอด” อัลบั้ม “ Believe”)

เมื่อเป็นอย่างนั้นการลดราคาบัตรแบบมโหฬารจึงเป็นทางเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยุทธนา บุญอ้อมให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐว่าตอนนั้นมีทางเลือกสองทางคือ หยุดการทัวร์เพื่อแบกการขาดทุนไว้เท่านี้ กับ การลดราคาบัตรลงเพื่อทัวร์ต่อ และเขาเลือกวิธีหลัง ซึ่งยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะกระแสตีกลับจากแฟนๆ แทนที่ Bodyslamจะใช้คอนเสิร์ตครั้งนี้ขีดเขียนตำนาน แต่กลายเป็นรอยด่างพร้อยของพวกเขา แฟนๆที่รักเขามากๆล้วนเสียความรู้สึกไปตามๆกัน เรียกได้ว่าการผิดพลาดครั้งนี้เสียทั้งเงิน เสียทั้งชื่อเสียงที่สะสมมา แต่ก็ถือว่าตัดสินใจถูกที่ระงับทัวร์ แต่น่าสนใจว่าต่อไปกระแสความนิยมของ Bodyslamจะไปในทางไหนต่อ?

จากความล้มเหลวในครั้งนี้ต้องให้กำลังใจทีมจัดงานและความตั้งใจของBodyslam ที่อยากให้คนทั่วประเทศได้ดูคอนเสิร์ตระดับคุณภาพแบบนี้ “ชีวิตแค่โดนทำร้าย แต่ที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย......ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ”

จากใจแฟน Bodyslam ตั้งแต่ยุคที่ Bodyslamยังถูกเรียกว่า “วงร็อกอินดี้”