ไม่พบผลการค้นหา
คณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล กำหนดรูปแบบฉลากยา 11 รายการ ให้เครือข่ายโรงพยาบาลกว่า 50 แห่ง นำไปปรับใช้กับระบบของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง โดยยกกรณีการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาดของคนไทยมาเป็นตัวอย่าง และย้ำห้ามรับประทานยาชนิดนี้ครั้งละ 2 เม็ด

คณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล กำหนดรูปแบบฉลากยา 11 รายการ ให้เครือข่ายโรงพยาบาลกว่า 50 แห่ง นำไปปรับใช้กับระบบของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง โดยยกกรณีการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาดของคนไทยมาเป็นตัวอย่าง และย้ำห้ามรับประทานยาชนิดนี้ครั้งละ 2 เม็ด 
    
กินยาพาราเซตามอลครั้งละ 2 เม็ด เมื่อมีอาการปวดหัวหรือเป็นไข้ เป็นความเชื่อของคนไทยส่วนใหญ่มนปัจจุบัน  ที่เข้าใจว่าจะช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยได้  ซึ่งขัดกับหลักเกณฑ์การใช้ยาชนิดนี้ ที่กำหนดว่าห้ามรับประทานเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งยาพาราเซตามอล 1 เม็ด เท่ากับ 500 มิลลิกรัม

หากดูฉลากยาพาราเซตามอลข้างขวด ที่ระบุว่า รับประทานได้ครั้งละ 2 เม็ด ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งทำให้คนไทยกินยาชนิดนี้มากเกินไป คือสูงถึง 6,000 มิลลิกรัมต่อวัน

คณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล จึงเห็นว่า ต้องกำหนดให้แพทย์สั่งจ่ายยาพาราเซตามอลกับผู้ป่วยเพศหญิง จำนวน 1 เม็ด รับประทานทุก 6 ชั่วโมง ส่วนผู้ป่วยชายให้พิจารณาเป็นกรณีไป และให้เขียนกำกับบนฉลากยาด้วยว่า "ห้ามใช้ยาพาราเซตามอลเกินวันละ 8 เม็ด เพราะเป็นพิษต่อตับ"
        
นอกจากการกำหนดปริมาณยาที่เหมาะสมแล้ว การปรับรูปแบบฉลากยา ยังเป็นสิ่งจำเป็น  เครือข่ายโรงพยาบาลฯกว่า 50 แห่ง จึงกำหนดการปรับรูปแบบฉลากยา 11 รายการ 

เช่น ยาพาราเซตามอล ที่ต้องระบุชัดเจนว่าห้ามกินเกินวันละ 8 เม็ด  ยารักษาโรคเกาต์ ที่ควรมีฉลากเตือน "หากท้องเสียให้หยุดยาทันที" รวมถึงกลุ่มยาปฏิชีวนะ ควรเตือนเรื่องเชื้อดื้อยา เป็นต้น
 
ซึ่งในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ทุกภาคส่วนจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลง เพื่อนำโครงการโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลไปสู่ภาคปฏิบัติ ให้เกิดการใช้ยาที่ถูกต้อง และเป็นรูปธรรมมากขึ้น 

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog