Album : .5: The Gray Chapter

Artist : Slipknot

Label : The All Blacks U.S.A.

Genre : Alternative metal

Buy : iTunes

อัลบั้มเพลงสุดเอ็กซตรีมส่งท้ายช่วงก่อนปลายปี 2014 ของวงที่น่าจะเป็นวง KISS แห่งยุคสมัยปัจจุบันอย่าง Slipknot เป็นที่จับตา และเป็นสร้างข่าวและกระแสได้แรงจริงๆ แถมเปิดตัวด้วยการเป็นอัลบั้มขายดีแซงหน้าเพลงป็อบในตลาดทั่วๆไปในหลายประเทศทั่วโลก โดยแม้ว่าภาพลักษณ์และสำเนียงดนตรีจะหนักหน่วงหนักข้อขึ้นในทุกอัลบั้มด้วยเรื่องราวเร้นลับต่างๆที่ซ่อนภายใต้หน้ากากของทั้ง 9 คน

เรื่องราวของเพลงส่วนใหญ่ คือการเสียชีวิตของ Paul Gray มือเบสหนึ่งในผู้ก่อตั้งวงเมื่อปี 2010 ที่สร้างความเสียใจ ความโกรธโทษตัวเอง (ที่ช่วยเพื่อนจากการติดยาไม่ได้) ของทุกคนที่เหลือในวงที่ต้องการก้าวข้ามเหตุการณ์เลวร้ายตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา จึงขอระบายทุกอย่างลงในอัลบั้มที่อุทิศให้ Gray ชุดนี้

ขณะที่ Joey Jordison มือกลองดั้งเดิมก็ถูกขับออกจากวง ก็นำมาสู่ดราม่าอีกเรื่องให้แฟนๆได้ติดตาม โดยเฉพาะสมาชิกใหม่ 2 คนของวงที่มาทดแทนทั้ง 2 คนที่หายไปก็ยังเป็นปริศนาว่าเป็นใครกันแน่ ก็ยิ่งทำให้สเน่ห์ความลึกลับของวงแบบดั้งเดิมยิ่งกลับมาอีกด้วย อย่างไรก็ตามนักสืบอินเทอร์เน็ตหัวเห็ดจากทั่วโลกก็ล้วนมีพยานหลักฐานมัดแน่นว่าบุรุษผู้อยู่ใต้หน้ากากคล้ายๆ Scarecrow จากเรื่อง Batman 2 คนที่มาเล่นเบส และกลอง ในมิวสิกวิดีโอเพลง The Devil in I คือ Alessandro Venturella กีตาร์เทคนิเชียนชาวอังกฤษ ของวง Mastodon และ Jay Weinberg มือกลองดาวรุ่งวัย 24 ปี ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ Max Weinberg มือกลองสุดคลาสสิกของ Bruce Springteen ตามลำดับ

เพลงอย่าง XIX ,Killpop , Good Bye  และ Be Prepared to Hell เต็มไปด้วยซาวด์สยองขวัญโดยเจ้า ‘หัวหนาม’Craig Jones' และ DJ ' Sid Wilson' ที่บทบาทเยอะมากในอัลบั้มนี้ ขณะที่เพลงอย่าง Skeptic, Nomadic , Custer , The Negative One คือกลุ่มเพลงที่ขาเฮฟวี่เมทัลชอบ นอกจากนี้สิ่งที่เด่นกว่า 4 อัลบั้มที่ผ่านมาคือเมโลดี้ร้องของ Corey Taylor และกีตาร์โดย Jame Root และ Mick Thompson ที่ทำให้ทุกคนฟังเพลงแบบนี้ได้ง่ายขึ้นด้วย

Shawn Crahan หรือ Clown หัวหน้าวง Slipknot บอกกับสื่อว่า อัลบั้มใดๆที่พวกเขาผลิตขึ้นมา พวกเขาจะคิดเสมอว่านี่เป็นอัลบั้มสุดท้ายในนาม Slipknot เนื่องจากสถานการณ์อันเปราะบางของสมาชิกในวงที่มีตั้ง 9 คน พวกเขาจึงจัดเต็มทุกอัลบั้ม แต่ในฐานะคนที่ติดตามเพลงและเรื่องราวของวงดนตรีหน้ากากวงนี้มาตั้งแต่อัลบั้มแรกในปี 1999 ผู้เขียนมีความเชื่อลึกๆว่านี่อาจเป็นงานสุดท้ายจริงๆก็ได้