กรมชลประทาน แนะนำให้การประปานครหลวง สร้างท่อส่งน้ำดิบใต้ดินจากฝั่งตะวันตก ไปยังสถานีผลิตน้ำประปาในฝั่งตะวันออก เพื่อแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนน้ำในระยะยาว
กรมชลประทาน แนะนำให้การประปานครหลวง สร้างท่อส่งน้ำดิบใต้ดินจากฝั่งตะวันตก ไปยังสถานีผลิตน้ำประปาในฝั่งตะวันออก เพื่อแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนน้ำในระยะยาว
บริเวณจุดรับน้ำดิบท่าม่วง ที่จะรับน้ำจากเขื่อนแม่กลอง จังหวัดกาญจนบุรี คือจุดแรกที่คณะผู้บริหารการประปานครหลวง หรือ กปน. ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน สำรวจเส้นทางการผันน้ำจากฝั่งตะวันตก มายังฝั่งตะวันออก
โดยเส้นทางการผันน้ำเริ่มจากจุดรับปากคลองจรเข้สามพัน เป็นระยะทาง 65 กิโลเมตร ก่อนลงสู่คลองสองพี่น้อง ด้วยระยะทาง 36 กิโลเมตร และระบายผ่านประตูระบายน้ำบางสามลงสู่แม่น้ำท่าจีน
จากนั้น จะผันน้ำจากแม่น้ำท่าจีน ผ่านประตูระบายน้ำพระยาบันลือ ลงสู่คลองพระยาบันลือ ด้วยระยะทาง 42 กิโลเมตร ก่อนระบายผ่านประตูระบายน้ำสิงหนาท เพื่อออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป
ผู้ว่าการประปานครหลวง ระบุว่า จากปัญหาภัยแล้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ กปน.ประสบปัญหาน้ำทะเลหนุนในแม่น้ำเจ้าพระยา จนถึงสถานีสูบน้ำดิบสำแล จังหวัดปทุมธานี จึงได้ขอความร่วมมือกับกรมชลประทาน ดำเนินการผันน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำดิบในการผลิตน้ำประปา
กปน. มีแผนที่จะผันน้ำจากฝั่งตะวันตก มายังฝั่งตะวันออก เพื่อให้น้ำดิบจะไหลเข้าสู่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ โรงงานผลิตน้ำบางเขน และโรงงานผลิตน้ำสามเสน เพื่อผลิตน้ำปะปาที่มีคุณภาพ ให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งในระยะยาว แนวทางนี้อาจมีส่วนช่วยรับมือสถานการณ์ภัยแล้งในปี 2558
ขณะที่กรมชลประทาน แนะว่า กปน. ควรสร้างท่อส่งน้ำดิบใต้ดิน เป็นทางลัดจากเขื่อนแม่กลองฝั่งตะวันตก ส่งไปยังโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์โดยตรง แทนการใช้เส้นทางน้ำธรรมชาติ เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งน้ำในภาคเกษตรกรรม