หลายประเทศในอาเซียน มีความสนใจในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มานานหลายสิบปี แต่ดูเหมือนว่าไม่มีประเทศไหนที่ลงมือในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยล่าสุด ทางการเวียดนามได้ประกาศเดินหน้าเรื่องนี้อีกครั้ง และแสดงความเชื่อมั่นว่า ภายในปี 2573 เวียดนามจะมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 10 แห่งทั่วประเทศ

 

 

การสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น เป็นแนวคิดที่มีมานานหลายสิบปี แต่เนื่องด้วยแต่ละประเทศ มีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในหลายประเทศ ต้องชะลอออกไปก่อน ประกอบกับสถานการณ์ในปัจจุบัน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ในญี่ปุ่นระเบิดหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อปี 2554 ก็ยิ่งทำให้ความกังวล และกระแสต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มมากขึ้น

 

แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศที่ดูจะมีความคืบหน้าและผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจังมากที่สุด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นประเทศเวียดนาม โดยทางการเวียดนามได้ประกาศแล้วว่า จะก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 10 แห่ง ภายในปี 2573 นี้ ซึ่งหากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 10 แห่งนี้ สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพ ก็จะผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการใช้งานได้ถึงร้อยละ 10 ของความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศ

 

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 10 โรงนี้ จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้ารวมกันได้ 15,000 – 16,000 เมกะวัตต์ แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลเวียดนามในตอนนี้ ก็คือการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ดังกล่าวกับประเทศที่เป็นผู้นำในด้านนี้ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย และฝรั่งเศส แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีความคืบหน้ามากเท่าไหร่ ทำให้โครงการนี้อาจล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม

 

เบื้องต้น ทางการเวียดนามคาดว่า ภายในปีหน้า การสำรวจสถานที่ก่อสร้าง และการว่าจ้างบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างจะแล้วเสร็จ และเมื่อถึงปี 2563 การก่อสร้างทั้งหมดจะสมบูรณ์ และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศในจังหวัดนินห์ ถ่วน จะเริ่มดำเนินการได้ และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1,000 เมกะวัตต์

 

อีกประเทศหนึ่งที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์ ก็คือประเทศเมียนมาร์ ที่เมื่อเร็วๆนี้รัฐบาลได้แสดงความประสงค์ที่จะสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขึ้นมา เพื่อการศึกษาวิจัยโดยเฉพาะ แต่การดำเนินการเรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้นหลังจากที่เมียนมาร์มั่นใจแล้วว่า มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถรับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

 

ด้านฟิลิปปินส์นั้น ก็มีแนวคิดในการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาตั้งแต่ปี 2501 ต่อมาในปี 2516 แนวคิดดังกล่าวก็เริ่มเป็นรูปร่างมากขึ้น หลังจากที่ประเทศเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันแพง จนหลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว การก่อสร้างจึงเกิดขึ้นในอีก 3 ปีถัดมา แต่แล้วการก่อสร้างก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island ในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุทางโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

 

ในปี 2529 ก็เกิดวิกฤตนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกครั้ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ในประเทศยูเครน ท้ายที่สุด รัฐบาลฟิลิปปินส์จึงประกาศระงับการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศอย่างเป็นทางการ ปัจจุบัน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของชาวฟิลิปปินส์แทน