ไม่พบผลการค้นหา
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเยอรมนีเพิ่งจับกุมและสั่งห้ามไม่ให้มีตำรวจชารีอะฮ์ในเยอรมนีอย่างเด็ดขาด
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเยอรมนีเพิ่งจับกุมและสั่งห้ามไม่ให้มีตำรวจชารีอะฮ์ในเยอรมนีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากกลุ่มมุสลิมเหล่านี้กำลังทำลายอำนาจรัฐของเยอรมนี ตำรวจชารีอะฮ์ที่ว่านี้คืออะไร และทำไมพวกเขาจึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อรัฐบาลเยอรมนี
 
หลังจากที่ชาวเยอรมันในเมืองวุพพาทาล ทางตะวันตกของเยอรมนีต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการมีตำรวจชารีอะฮ์มาหลายเดือน ล่าสุด นายโทมัส เด ไมซีแอร์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีก็ออกมาประกาศว่า พลเรือนที่สวมเครื่องแบบที่มีโลโก้เขียนว่า "ตำรวจชารีอะฮ์" ไม่สามารถเดินตรวจตราท้องถนนของเยอรมนีได้
 
ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ชาวเมืองวุพพาทาลหลายคนได้พบเจอคนแปลกหน้าเดินไปมาตามท้องถนนในยามวิกาลแถวๆหน้าดิสโกเทค หรือบ่อนการพนัน และกล่าวเตือนนักเที่ยวทั้งหลาย ให้ลด ละ เลิกการดื่มแอลกอฮอลล์หรือเล่นการพนัน แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นใครกันแน่ จนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คนกลุ่มนี้เริ่มแต่งกายด้วยเครื่องแบบที่มีโลโก้เขียนว่า "ตำรวจชารีอะฮ์" ทางการเยอรมนีจึงต้องรีบจัดการเรื่องนี้โดยทันที 
 
การที่จู่ๆก็มี"ตำรวจชารีอะฮ์"เกิดขึ้น คอยนำหลักของกฎหมายอิสลามมาข่มขู่ ทำให้ชาวเยอรมันจำนวนมากรู้สึกว่า พวกเขาถูกคุกคามและกังวลต่อความปลอดภัยของตนเองจากการตั้งศาลเตี้ยของคนกลุ่มนี้ เนื่องจากทุกคนทราบดีว่ากฎหมายชารีอะฮ์เป็นกฎหมายอิสลามที่มีบทลงโทษค่อนข้างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการตัดมือหรือการรุมปาหิน 
 
นอกจากนี้ สถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ก็ยิ่งทำให้หลายคนหวาดระแวงชาวมุสลิมมากขึ้น ว่าจะมาก่อการร้าย หรือพยายามแทรกซึมยึดครองเมือง โดยเฉพาะในเยอรมนี อังกฤษและฝรั่งเศสที่มีประชากรชาวมุสลิมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และก็มีขบวนการ "ตำรวจชารีอะฮ์" นี้เช่นเดียวกัน
 
อย่างไรก็ตาม นายสเวน ลาอู อดีตนักดับเพลิงผู้อยู่เบื้องหลังแคมเปญตำรวจชารีอะฮ์ กล่าวว่า ตำรวจชารีอะฮ์ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการแต่งกายล้อเลียนแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และแคมเปญนี้ก็มีจุดประสงค์เพื่อให้คนหันมาสนใจ ถกเถียงเกี่ยวกับกฎหมายชารีอะฮ์ในเยอรมนีเท่านั้น 
 
แม้เยอรมนีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากกว่าร้อย 60 ของประเทศ แต่เยอรมนีเองเป็นประเทศที่แยกรัฐออกจากศาสนาค่อนข้างชัดเจน ไม่มีโบสถ์ของรัฐ หรือไม่มีพิธีกรรมทางศาสนาในโรงเรียน และไม่มีการนำหลักการทางศาสนามาเป็นบรรทัดฐานในการบัญญัติกฎหมาย ฉะนั้น การนำกฎหมายชารีอะฮ์มาใช้ในเยอรมนีดูจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และรัฐเองก็คงไม่ได้กลัวว่าการมีตำรวจชารีอะฮ์จะเป็นแผนการยึดครองเมืองของชาวมุสลิมอย่างที่หลายคนตื่นตระหนก
 
แต่เหตุผลที่รัฐมนตรีมหาดไทยเยอรมนีต้องออกมายืนยันว่า แผ่นดินเยอรมนีไม่มีกฎหมายชารีอะฮ์ และจะไม่มีทางใช้กฎหมายนี้อย่างแน่นอน พร้อมทั้งจับกุม "ตำรวจชารีอะฮ์" เหล่านี้ ก็เพื่อเป็นการตอกย้ำความมั่นคงแห่งรัฐว่า เยอรมนีมีกฎหมายเพียงฉบับเดียว และมีระบบตำรวจเยอรมันทำหน้าที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายบนผืนแผ่นดินเยอรมนีเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเหยียดศาสนาอิสลามโดยใช้อำนาจรัฐ
 
ที่สำคัญ หากปล่อยให้ตำรวจชารีอะฮ์ยังลอยนวลต่อไป ก็เหมือนเป็นการอนุญาตให้มีการตั้งกระบวนการยุติธรรมซ้อนขึ้นมา และจุดเล็กๆที่รัฐละเลยไปนี้ อาจทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายฉบับปัจจุบันเสื่อมลง และนำไปสู่การสถาปนาสถาบันที่เข้มแข็งขึ้นอย่างการประกาศรัฐอิสลามซ้อนขึ้นมา ที่ไม่ได้มีแต่ในเยอรมนีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประเทศอื่นในยุโรปอีกด้วย
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog