วี.เอ็ม.พี.ซี เปิดตัว โครงการบ้านระดับไฮเอนด์ โครงการใหม่ แอสเทรา ไพรด์ @ พระราม 2 เจาะกำลังซื้อลูกค้ากลุ่มมีกำลังซื้อสูง ย่านพระราม 2 คาดทำยอดขาย 400 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ หลังเปิดตัวขายได้แล้ว 200 ล้านบาท

 

บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด  เปิดตัวบ้านเดี่ยว โครงการใหม่ แอสเทรา ไพรด์ @ พระราม 2 รวม  47 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท  บนทำเลที่เป็นจุดเชื่อมระหว่าง โซนอุตสาหกรรม กับ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ  ที่ตั้งโครงการยังอยู่ในทำเล  ที่ไม่มีปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาล 

 

โครงการ "แอสเทรา ไพรด์ @ พระราม 2"  เป็นบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ ติดถนนพระราม 2 ห่างจากสาทร 30 นาที  ออกแบบภายใต้แนวคิด "The Privilege of  Luxury Modern Living"  พร้อมอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวก ครบครัน   

 

แบบบ้าน มีให้เลือก 3 แบบ 3 สไตล์ คือ แบบที่ 1  Allure  เนื้อที่ 60 ตารางวา  พื้นที่ใช้สอย 425 ตารางเมตร  ขนาด 3 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องแฟมิลี่รูม มีห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ที่จอดรถสูงสุด 3 คัน  ราคาเริ่มต้น  24 ล้าน 9 แสนบาท 

 

แบบที่ 2  คือ  Bless  เนื้อที่ 57 ตารางวา  พื้นที่ใช้สอย 500 ตารางเมตร  ขนาด 4 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก 1 ห้องแฟมิลี่รูม พื้นที่เอนกประสงค์  ห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ  ที่จอดรถสูงสุด 4 คัน  ราคาเริ่มต้นที่ 27 ล้าน 9 แสนบาท  

 

แบบที่ 3  Crown  เนื้อที่ 68 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 586 ตารางเมตร  ใหญ่ที่สุดของโครงการ  ขนาด 5 ห้องนอน พร้อมห้องผู้สูงอายุ 1 ห้องรับแขก 1 ห้อง  แฟมิลี่รูม  Sky Dining และสระว่ายน้ำส่วนตัว บนชั้นดาดฟ้า  ห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ  ที่จอดรถสูงสุด 5 คัน ราคาเริ่มต้นที่ 32 ล้าน 9 แสนบาท  

 

ภายในโครงการ ยังมี คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ซาวน่า ระบบไฟฟ้าฝังดิน สวนส่วนกลางภายในโครงการ ขณะที่ ระบบรักษาความปลอดภัย เข้มงวด ทั้งการติดกล้อง CCTV รอบโครงการ ระบบเข้าออกแบบ Pass Card ตลอดจนรถกอล์ฟบริการรับ-ส่งภายในโครงการด้วย  

 

นายปริญญา  เธียรวร  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี.  กล่าวว่า  ปัญหาการเมืองที่ผ่านมา กระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ แต่ตลาดในกลุ่มกำลังซื้อสูง หรือ ไฮเอนด์  ไม่ได้อ่อนไหวตามภาวะเศรษฐกิจ และเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ กลุ่มกำลังซื้อบ้านระดับราคา 5 ล้าน เติบโตลดลง 5-10%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน   

 

นอกจากนี้ ศักยภาพทำเล ย่านพระราม  2  ถือเป็นตลาด real demand หรือตลาดที่มีกำลังซื้ออยู่จริง  มีการซื้อเก็งกำไรเป็นส่วนน้อย  และมีการกำหนดทิศทางในการพัฒนาระบบเมือง และการคมนาคมที่เอื้อสู่การเดินทาง และการขยายเมืองในอนาคตอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันราคาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ มีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับสูงขึ้นเกือบทุกตัว 

 

ทั้งนี้ หลังเปิดขายมาตั้งแต่ช่วงต้นปี  สามารถขายได้แล้ว 7 ยูนิต หรือประมาณ 15%  คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านบาท  โดยตั้งเป้าเปิดขายให้ได้ 400 ล้านบาทในสิ้นปีนี้