'ใบบัวบก' สมุนไพรพื้นบ้าน ที่หาทานได้ตามท้องตลาด มีสรรพคุณที่สามารถบำรุงร่างกายได้ตั้งแแต่สมอง สายตา บำรุงผม รักษาแผล เป็นต้น

 

 
บัวบก หรือ ใบบัวบก เป็นสมุนไพรในเขตร้อน มีสรรพคุณในการบำรุงประสาท บำรุงความจำ บำรุงสายตา บำรุงผม บำรุงเอ็น โดยส่วนที่นำมาทาน คือ ส่วนของใบและราก 

 

ประโยชน์ของใบบัวบก มีดังนี้

 

ลดความเสื่อมของเซลล์ : จากการศึกษาทางเภสัชวิทยา พบว่า ใบบัวบกให้สารไกลโคโซด์หลายชนิดที่มีผลต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ส่งผลให้ลดความเสื่อมของเซลล์ และอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้ จึงช่วยทำให้ผิวหนังเต่งตึงและมีความยืดหยุ่นขึ้น

 

แผลหายเร็วขึ้น : สารไกลโคไซด์ที่ได้จากใบบัวบก จะช่วยเร่งการสร้างสารคลอลาเจนที่เป็นโครงสร้างของผิว ช่วยการเร่งเนื้อเยื่อ ช่วยห้ามเลือด ลดการอักเสบ รวมทั้งลดการเกิดแผลเป็นชนิดนูนได้ จึงสามารถใช้กับผู้ที่เป็นแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือฟกช้ำตามร่างกาย 

 

บำรุงสมอง : ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานสำรองให้กับสมอง และได้ผลดีทั้งในแง่ของการรักษาส่วนของสมองที่ถูกทำลายแล้วให้ดีขึ้น และยังป้องกันไม่ให้สมองที่ปกติอยู่ถูกทำลายหรือเสื่อมลง โดยในใบบัวบกมีสารต้านการเสื่อมของเซลล์สมอง คงสภาพปริมาณของสารสื่อประสาทอะเซททิลโคลิน ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมอง และเสริมฤทธิ์การทำงานของสารกาบา  ซึ่งเป็นสารสื่อประสาททำหน้าที่รักษาสมดุลของจิตใจทำให้ผ่อนคลายและหลับได้ง่าย 

 

เพิ่มความฉลาด และเพิ่มความสามารถในการจำ : เนื่องจากใบบัวบกทำให้สารในสมองมีความสมดุล  และการเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองทำให้เกิดความสามารถในเรียนรู้ได้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยชะลออาการของโรคสมองเสื่อมในวัยชราหรืออัลไซเมอร์ได้ด้วย

 

ลดความดันโลหิตสูง : ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่หลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดมีความแข็งแรง และสามารถนำเลือดไปเลี้ยงในอวัยวะต่าง ๆ ได้ดีขึ้น จึงสามารถควบคุมระดับแรงดันโลหิตให้เป็นปกติ 

         

ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ : ในใบบัวบกมีสารที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมีคุณค่าทางอาหาร คือ มีวิตามินเอสูงมาก วิตามินบี 1 สูงกว่าผักอื่นๆ และมีแคลเซียมมาก

 

น้ำใบบัวบก มีสรรพคุณช่วยแก้ช้ำใน หรือ ร้อนใน

วิธีการทำ

1. เลือกใช้บัวบกที่ใบแก่กว่ากินเป็นผักสด ใช้ทั้งรากทำความสะอาดอย่างดี

2. ใบบัวบกจะเหนียวให้ตัดเป็น 2-3 ท่อน ก่อนบดหรือตำ

3. คั้นน้ำแรกโดยผสมน้ำกับใบบัวบกที่บดหรือตำแล้วนำกากที่เหลือมาคั้นน้ำที่สองเพื่อให้ได้ตัวยาที่ยังเหลืออยู่ ใช้น้ำสะอาดในการคั้น แต่ห้ามใช้น้ำร้อน หรือนำน้ำที่คั้นไปต้ม

4. กรองน้ำบัวบกโดยใช้ผ้าขาวบางห่างๆ แบบผ้ามุ้ง ถ้าผ้าถี่มากจะกรองไม่ออก

5. หลังกรองจะมีกาก ซึ่งเศษใบให้ทิ้งไว้ให้นอนก้นและทิ้งไป รินเฉพาะส่วนใสมาดื่ม

6. น้ำบัวบกต้องคั้นใหม่ๆ จากใบสดๆ จะดีที่สุด ไม่ควรเก็บน้ำบัวบกไว้นาน และต้องแช่เย็นไว้เสมอ

7. น้ำเชื่อมถ้าทำจากน้ำต้มใบเตย จะทำให้น้ำบัวบกอร่อยยิ่งขึ้น

 

ไข่เจียวบัวบก ช่วยบรรเทาอาการปวด-วิงเวียนศรีษะ

วิธีการทำ ส่วนประกอบ

ไข่ 2 ฟอง

บัวบกสด 20 กรัม

น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำปลาเล็กน้อย

น้ำมันพืช

วิธีทำ

1. นำบัวบกมาล้างให้สะอาดแล้วหั่นซอย

2. นำไข่มาตอกแล้วตีไข่ เติมเครื่องปรุงรส

3. ใส่บัวบกที่หั่นซอยลงไป คนให้เข้ากัน

4. ทอดในไฟอ่อนจนไข่สุก

 

หมายเหตุ การทานใบบัวบกสดๆ เป็นผักเคียง ในปริมาณปกติ แม้จะกินแทบทุกวัน หรือกินน้ำคั้นบัวบกติดต่อกัน 5-7 วัน จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ  แต่ถ้ากินมากเกินไป เช่น กินน้ำคั้นบัวบกวันละ 2-3 แก้ว เป็นประจำ  อาจทำให้เกิดอาการป่วยจากภาวะเย็นเกินขึ้นได้ในบางกรณี เพราะบัวบกมีฤทธิ์เป็นยาเย็นจัด

 

เรียบเรียงจาก : นิตยสารหมอชาวบ้าน , คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา , เว็บไซต์ thearokaya.co.th 

ที่มาภาพ : เว็บไซต์ pedtaled.wordpress.com