กระแสการอนุรักษ์ปลานกแก้วในโซเชียลมีเดีย ส่งผลห้างหลายแห่งยุติการขายแต่ยังพบในตลาด ขณะที่ผู้ขายระบุ ลูกค้าไม่นิยมรับประทาน
กระแสการอนุรักษ์ปลานกแก้วในโซเชียลมีเดีย ส่งผลห้างดังหลายแห่งยุติการขายปลาชนิดนี้แล้ว เนื่องจากต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาระบบนิเวศทางทะเล แต่ทีมข่าววอยซ์ทีวียังพบการขายปลานกแก้วบนแผงขนาดเล็กในตลาดสด ซึ่งผู้ขายยืนยันว่า ส่วนใหญ่เรือประมงฝากมาขาย และขายไม่ค่อยได้เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่นิยมรับประทาน
ซันไชน์ สเก็ตเชอร์ คือ เพจเฟซบุ๊ก ที่นักอนุรักษ์ชาวไทย ในฐานะรองหัวหน้าสหภาพนานาชาติ เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น ประจำภูมิภาคอาเซียนใช้เป็นช่องทางจุดประเด็นการอนุรักษ์ ปลานกแก้ว หลังพบการจำหน่ายอย่างแพร่หลายในท้องตลาด จนนำไปสู่การรณรงค์ "หยุดขายปลานกแก้ว" ในภาคประชาสังคม ผ่านเครือข่าย เชจ ดอท โออาร์จี ซึ่งขณะมีผู้ร่วมแคมเปญกว่า 2 หมื่นคน จนทำให้ห้างค้าปลีกชื่อดังหลายแห่ง ยุติการจำหน่ายทันที
นักอนุรักษ์ มองว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนการแก้ปัญหาที่อย่างยั่งยืน ด้วยการให้ความรู้สาธารณะ ลบค่านิยมการบริโภค ตลอดจนตัดวงจรการทำลายทรัพยากรธรรมชาติก่อนจะสายเกินไป ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังของภาครัฐ
นอกจากสร้างสีสันให้ทะเลอันดามันและอ่าวไทยแล้ว ปลานกแก้ว ยังเป็นสัตว์ทะเล ที่ช่วยปรับสมดุลระบบนิเวศแนวปะการัง อย่างการช่วยควบคุมสาหร่ายไม่ให้ขึ้นคลุมปะการัง เปิดพื้นที่ให้ตัวอ่อนปะการังได้ลงเกาะ ตลอดหมุนเวียนแร่ธาตุในระบบเช่นการผลิตทรายขาวละเอียด ที่ช่วยป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง
ในมุมมองนักรักษ์ การกินปลานกแก้ว จึงเท่ากับ การกินต้นทุนธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของสัตว์ทะเลนานาชนิด ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้มหาศาล
ภาพ : www.flickr.com/Jim Bahn