อธิบดีอัยการภาค 7 และคณะทำงาน รับสำนวนคดีข่มขืนแล้วฆ่าเด็กหญิงวัย 13 ปีบนขบวนรถไฟจากแล้ว ด้านตำรวจเผยไม่หนักใจ 1 ในผู้ต้องหา กลับคำให้การ
อธิบดีอัยการภาค 7 และคณะทำงาน รับสำนวนคดีข่มขืนแล้วฆ่าเด็กหญิงวัย 13 ปีบนขบวนรถไฟจากแล้ว ด้านตำรวจเผยไม่หนักใจ 1 ในผู้ต้องหา กลับคำให้การ
พลตำรวจตรีธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปราณบุรี และคณะ นำสำนวนการสอบสวนคดีข่มขืนแล้วฆ่าเด็กหญิงวัย13 ปี และโยนร่างออกจากรถไฟ ขบวนรถไฟที่ 174 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสำนวนคดีนี้ มีความหนาถึง 432 หน้า
และมีผู้ต้องหา 2 รายคือ นายวันชัย แสงขาว และนายณัฐกรณ์ ชำนาญ ในฐานความผิด ผู้ต้องหาที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ ภรรยาตน ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในยานพาหนะที่ประชาชนโดยสาร หรือ รับของโจรและยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพื่อปกปิด ความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ฯ
ส่วนนายณัฐกรณ์ ผู้ต้องหาคนที่ 2 ถูกตั้งข้อหาสนับสนุนให้ผู้ต้องหาที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ ไม่เกิน 15 ปี โดยตำรวจได้นำสำนวนคดีอาญาดังกล่าว ส่งมอบให้กับ นายสมชาย ศักดิ์สุนทร อัยการจังหวัดหัวหิน โดยมี นางสาวเนื้อทิพย์ โกมลมาลย์ อธิบดีอัยการภาค7 และคณะทำงานอัยการ ร่วมรับสำนวนคดีด้วย
อธิบดีอัยการภาค 7 กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ อยู่ในความสนใจของประชาชน ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งอัยการจังหวัดหัวหิน ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาคดีเฉพาะ โดยมี นายสมชาย ศักดิ์สุนทร อัยการจังหวัดหัวหิน เป็นหัวหน้าคณะ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาทำงานไม่นาน เนื่องจากหลังเกิดเหตุ ทางสำนักงาน ได้ทำงานร่วมกับตำรวจมาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าไม่เกินวันพรุ่งนี้ จะสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลจังหวัดหัวหินได้
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงกรณีนายณัฐกรณ์ ที่กลับคำให้การ ว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ในเบื้องต้น พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รายงานในส่วนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะกลับคำให้การ แต่ตำรวจก็สามารถส่งฟ้องได้ และไม่มีผลต่อรูปคดี ซึ่งตำรวจและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้เก็บข้อมูลและมีพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว