ไปรษณีย์ไทย เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีส่งไอโฟนแล้วกลายเป็นก้อนหิน พร้อมแนะวิธีส่งสิ่งของมีค่าทางไปรษณีย์ให้ปลอดภัย
ไปรษณีย์ไทย เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีส่งไอโฟนแล้วกลายเป็นก้อนหิน พร้อมแนะวิธีส่งสิ่งของมีค่าทางไปรษณีย์ให้ปลอดภัย
กรณีผู้ใช้บริการ EMS ส่งโทรศัพท์มือถือไอโฟน แต่เมื่อแกะซองปลายทาง กลับพบว่า เป็นก้อนหิน กลายเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงมาตรฐานการบรรจุหีบห่อของไปรษณีย์ไทย ซึ่งที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องการจัดส่งเอกสารและพัสดุมาโดยตลอด
ขณะที่ผู้บริหารบริษัท ไปรษณีย์ไทย ชี้แจงว่าจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ตั้งแต่กระบวนการฝากส่งต้นทาง จนถึงขั้นตอนนำจ่ายถึงมือผู้รับปลายทางอย่างละเอียด โดยคาดว่าจะทราบข้อเท็จจริงภายใน 7 วันทำการ และจะชดใช้ค่าเสียหายให้เป็นกรณีพิเศษ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทบความเชื่อมั่นผู้ใช้บริการลดลง แต่ยังมีอีกหลายคน ยืนยันใช้บริการทางไปรษณีย์ต่อไป แต่จะป้องกันความเสี่ยง ด้วยการไม่ส่งสิ่งของที่มีมูลค่าสูง
นอกจากการปรับปรุงและตรวจสอบภายในองค์กรแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังขอความร่วมมือประชาชน เลือกใช้หีบห่อให้เหมาะสมกับพัสดุ และจัดส่งตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการส่งพัสดุที่มีมูลค่าสูง หรือจะเพิ่มความมั่นใจด้วยการซื้อประกันการส่งสินค้า ที่มีวงเงินชดเชยสูงสุดถึง 5 หมื่นบาท
กระบวนการจัดสิ่งสิ่งของมีค่า เช่น โทรศัพท์ไอโฟน คือ ไม่ควรใส่โทรศัพท์ลงในซองกันกระแทกขนาด C5 อย่างที่ผู้เสียหายทำ แต่ควรห่อหุ้มโทรศัพท์ด้วยซองกันกระแทกให้แน่นหนาหลายชั้น แล้วใส่ลงในกล่องพัสดุที่มีความแข็งแรง พร้อมอัดวัสดุกันกระแทก เช่น โฟม หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ ลงไปภายในตัวกล่องด้วย ก่อนจะผูกเชือกรัดอีกครั้ง
ซึ่งการเดินทางของพัสดุจากต้นทางไปจนถึงมือผู้รับปลายทาง นอกจากจะอาศัยความเป็นมืออาชีพของพนักงานแล้ว การปฏิบัติอย่างถูกต้องและรอบคอบของผู้ส่งและผู้รับ ก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้