"อินทรีเหล็ก" เยอรมัน สุดแกร่ง ไล่ถล่ม เจ้าภาพ บราซิล เละเทะ 7-1 ผ่านเข้าชิงฟุตบอลโลก 2014 ได้สำเร็จ

 

ฟุตบอลโลก 2014 รอบรองชนะเลิส บราซิลเจ้าภาพจัดการแข่งขันพบกับ เยอรมัน แชมป์โลก 3 สมัยจากยุโรปโดยเกมนี้เจ้าถิ่นขาด เนย์มาร์ กองหน้า และ ติอาโก้ ซิลวา กองหลัง สองนักเตะหลักของทีม นาทีที่ 11 แฟนบอลอินทรีเหล็กได้เฮลั่น จากลูกเตะมุม โทนี่ โครส เปิดบอลยาวเข้าไปหน้าเขตโทษ โธมัส มุลเลอร์ ยืนไร้ตัวประกบแปผ่านตัว ชูลิโอ เซซาร์ เข้าไปโล่งๆ ให้เยอรมัน ขึ้นนำ 1-0

 

หลังเสียประตู เจ้าบ้านพยายามครองเกมบุกเข้ากดดันอย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังทวงประตูคืน แต่แนวรับ เยอรมัน ยังตั้งรับกันแน่นหนาและรอสวนกลับ

 

นาทีที่ 23 โท นี่ โครส แทงบอลเข้าเขตโทษให้ โธมัส มุลเลอร์ แปะบอลคืนให้ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ได้ยิงไปติดเซฟ ชูลิโอ เซซาร์ ก่อนที่ดาวยิงตัวเก๋าจะตามซ้ำตุงตาข่าย ให้เยอรมัน ออกนำ 2-0 และเป็นประตูที่ 16 ของ มิโรสลาฟ โคลเซ่ ในศึกฟุตบอลโลก ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์

 

นาทีต่อมา ฟิ ลิปป์ ลาห์ม ลากบอลขึ้นมาริมเส้นฝั่งขวาก่อนผ่านบอลเข้าไปหน้าเขตโทษ โธมัส มุลเลอร์ วิ่งยิงไม่โดนจังหวะแรก บอลเลยไปถึง โทนี่ โครส ได้ยิงด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับ บอลพุงเสียบเสาเข้าไป เยอรมัน หนีห่างเป็น 3-0

 

นาทีที่ 25 หลัง เสียประตูติดๆกัน ทัพแซมบ้าป่วนไปหมด โทนี่ โครส หลุดเข้าไปทำชิ่งกับ ซามี่ เคดิร่า ก่อนดาวเตะจากบาเยิร์น มิวนิค จะเลือกยิงเข้าไปง่ายๆ เยอรมัน หนีห่างสุดกู่ 4-0

 

เจ้า ภาพยังช็อกไม่เลิก นาทีที่ 29 เมซุต โอซิล ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษก่อนไหลเข้ากลางให้ ซามี่ เคดิร่า ได้ยิงตุงตาข่าย เยอรมัน หนีห่างเป็น 5-0 แบบไม่มีใครคาดคิด

 

ช่วง เวลาที่เหลือ แซมบ้าพยายามครองบอลเพื่อบุกหวังทวงประตูคืนแต่ก็ไม่สามารถทำได้ หมดครึ่งเวลาแรก บราซิล ตกเป็นฝ่ายตามหลัง เยอรมัน 0-5

 

กลับ มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ โค้ชทีมชาติบราซิล ตัดสินใจเปลี่ยนเอา ฮัล์ค กับ แฟร์นันดินโญ่ ออก และส่ง เปาลินโญ่ กับ รามิเรส ลงเล่นแทน

 

ขณะที่ทาง เยอรมัน เปลี่ยนเอา มัทส์ ฮุมเมิลส์ ออกและส่ง แพร์ แมร์เตซัคเคอร์ ลงสนามแทน

 

นาทีที่ 52 แซมบ้า ทำเกมบุกขึ้นมาได้น่ากลัว เฟร็ด แทงบอลให้ รามิเรส หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาก่อนตบเข้ากลางหมายจะให้ ออสการ์ แต่ มานูเอล นอยเออร์ ไม่พลาดพุ่งปัดบอลเอาไว้ได้

 

รูปเกมของ บราซิลดีขึ้นมาก นาทีที่ 53 รามิเรส ผ่านบอลให้ ออสการ์ ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษแต่ มานูเอล นอยเออร์ ทุบทิ้งเอาไว้ได้

 

นาทีต่อมา เจ้าถิ่นยังครองเกมบุกต่อเนื่อง เปาลินโญ่ ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้า ไปในเขตโทษก่อนกดเต็มๆ มานูเอล นอยเออร์ ทุบทิ้งมาเข้าทาง เปาลินโญ่ ได้ยิงซ้ำอีกครั้งแต่ มานูเอล นอยเออร์ โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกหลังไว้ได้

 

นาทีที่ 58 อินทรีเหล็ก เปลี่ยนตัวคนที่สองโดยถอดเอา มิโรสลาฟ โคลเซ่ ออกและส่ง อันเดร เชือร์เล่ ลงแทน

 

นาทีที่ 62 เยอรมัน เกือบได้ประตูเพิ่มจากลูกยิงด้วยขวาหน้าเขตโทษของ โธมัส มุลเลอร์ แต่ ชูลิโอ เซซาร์ โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดข้ามคานไว้ได้ปลายมือ

 

นาทีที่ 68 ดานเต้ กองหลังบราซิลรับใบเหลืองแรกของเกม หลังไปเตะ โธมัส มุลเลอร์ จากทางด้านหลัง

 

นาทีที่ 69 เยอรมัน ต่อบอลกันขึ้นมาได้สวย ฟิลิปป์ ลาห์ม ได้หลุดเข้าเขตโทษก่อนผ่านบอลเรียดเข้าไปหน้าประตูให้ อันเดร เชือร์เล่ ยิงเข้าไปง่ายๆ เยอรมันหนีห่างเป็น 6-0

 

นาทีที่ 74 บราซิล เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยส่ง วิลเลี่ยน ลงสนามไปแทน เฟร็ด

 

นาทีที่ 76 โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมัน เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยส่ง ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ ลงไปแทน ซามี่ เคดิร่า

 

นาทีที่ 79 โธมัส มุลเลอร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนจ่ายเข้ากลางให้ อันเดร เชือร์เล่ เกี่ยวบอลลงด้วยขวาก่อนสับไกด้วยซ้าย บอลพุ่งผ่านมือ ชูลิโอ เซซาร์ ก่อนเช็ดคานเข้าประตูไป เยอรมัน หนีไปไกลเป็น 7-0

 

นาทีที่ 89 วิลเลี่ยน แทงบอลให้ ออสการ์ หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาที่เสาแรก แต่บอลพุ่งผ่านหน้าประตูออกไป

 

นาทีที่ 90  มาร์เซโล่ จ่ายให้ ออสการ์ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนล็อกหลบ เยโรม บัวเต็ง แล้วยิงผ่านตัว มานูเอล นอยเออร์ เข้าไปให้ บราซิลไล่มาห่างๆ 1-7

 

จบเกม เยอรมัน เป็นฝ่ายไล่ถล่ม บราซิล เจ้าภาพ ไปได้แบบขาดลอย 7-1 ผ่านเข้าไปรอในรอบชิงชนะเลิศ