หากพูดถึงฝีเท้า หลุยส์ ซัวเรซ ทุกคนยอมรับว่าเขาเป็นนักเตะระดับโลกแต่หากพูดถึงพฤติกรรมส่วนตัวของเขาหลายคนต่างเมินหน้านี้และหากยังแก้ไม่หายเราอาจเสียนักเตะชั้นยอดคนนี้ไปก่อนเวลาอันควร
หากพูดถึงฝีเท้า หลุยส์ ซัวเรซ ทุกคนยอมรับว่าเขาเป็นนักเตะระดับโลก แต่หากพูดถึงพฤติกรรมส่วนตัวของเขาหลายคนต่างเมินหน้านี้ และหากยังแก้ไม่หายเราอาจเสียนักเตะชั้นยอดคนนี้ไปก่อนเวลาอันควร
เกมที่อุรุกวัยเอาชนะอังกฤษ 2-1 หลุยส์ ซัวเรซ เหมาคนเดียวสองประตู เขาเหมือนเป็นเทพบุตรจุติลงมาจากสวรรค์แต่มาเกมล่าสุดแม้ว่าจะเอาชนะอิตาลีผ่านเข้ารอบสองฟุตบอลโลกได้แต่เหตุการณ์ที่ซัวเรซ ไปกัดหลัง จอร์โจ้คิเอลลินี่ เขาก็แปลงร่างกลายเป็นซาตานไปในพริบตา เรื่องราวทำท่าจะลุกลามใหญ่โตเมื่อทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าประกาศจะสอบสวนเหตุการณ์อัปยศครั้งนี้อย่างจริงจังซึ่งหากพิจารณาแล้วผิดจริงฟีฟ่าอาจลงโทษขั้นรุนแรงแบนยาวถึง 2 ปี เลยทีเดียวทั้งนี้เป็นเพราะ ซัวเรซ เคยก่อเหตุทำนองนี้มาแล้ว ถึงสองครั้งยังไม่นับรวมคดีอื่นๆอีกเยอะโดยพฤติกรรมในแง่ลบของ ดาวยิงรายนี้มีมากมายหลายคดีคัดเอาเฉพาะที่หนักๆ ก็มีดังนี้
เดือนพฤศจิกายน 2010ซัวเรซตกเป็นข่าวฟาดข่าวในฮอลแลนด์ว่า "มนุษย์กินคนแห่ง อาแจ็กซ์" เมื่อเขาไปกัดงับหัวไหล่ของอ๊อตมัน บัคคัล มิดฟิลด์ไอนด์โฮเฟ่น ทำให้ดาวยิงจอมโหดโดนแบนยาวถึง 7 นัด
เดือนตุลาคม 2011 ซัวเรซ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเหยียดผิว ปาทริซ เอวร่า แบ๊กซ้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ตัดสินว่า ซัวเรซ ผิดจริงโดนแบนไปอีก 8 เกม
เดือนธันวาคม 2011 คดีเก่ายังไม่จบซัวเรซ กลับคุมอารมณ์ไม่อยู่ไปแจกนิ้วกลาง ให้ กองเชียร์ ฟูแล่มทั้งอัฒจันทร์ ทางเอฟเอ เลยจัดการจัดเพิ่มโทษให้อีกหนึ่งเกม รวมแล้ว ซัวเรซโดนรวดเดียว 2 คดีแบนไป 9นัด
เดือนกุมภาพันธ์ 2012 ซัวเรซ ที่เพิ่งพ้นโทษกลับมา ในแมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซัวเรซไม่ยอมจับมือกับ เอวร่า ก่อนเกม จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปทั้งวงการลูกหนังแต่ท้ายสุดซัวเรซออกมาขอโทษจึงรอดพ้นโทษแบนไป
เดือนเมษายน 2013 ประวัติศาตร์ซ้ำรอยอีกครั้งซัวเรซ ไปจงใจกัดแขน บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลัง เชลซี ในเกมพรีเมียร์ลีก จนถูกเอฟเอโดนแบนยาว10 เกมเลยทีเดียว
เดือนมิถุนายน2014 ผ่านไปปีเศษ ซัวเรสก็สำแดงเดชอีกหนกัด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ในเกมทีมชาติอุรุกวัยพบอิตาลีในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ซึ่งฟีฟ่ากำลังพิจารณาคดีอยู่และมีโอกาสโดนแบนยาวถึง2 ปีเลยทีเดียว
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพฤติกรรมสันดานดิบแบบนี้ของซัวเรซจะเลิกได้หรือไม่เพราะหากพูดถึงฝีเท้าของเขาแล้วอยู่ในระดับเวิลด์คลาสแต่หากยังมีเหตุการณ์แบบนี้อีก ซัวเรซ อาจจะต้องเลิกเล่นแขวนสตั๊ดไปในก่อนเวลาอันควรซึ่งนับว่าน่าเสียดายสำหรับวงการฟุตบอลจริงหากต้องมาเสียนักเตะชั้นยอดไปเพราะคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แบบนี้