ไม่พบผลการค้นหา
ธุรกิจซื้อ-ขายสัญชาติถือเป็นใบเบิกทางสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในบางประเทศ ถึงแม้ว่าจะยอมให้คนต่างสัญชาติมาลงทุนทำธุรกิจ แต่หนทางที่จะมุ่งไปสู่ความร่ำรวยมั่งคั่ง ก็กำหนดเอาไว้เฉพาะคนสัญชาติตนเท่านั้น

ธุรกิจซื้อ-ขายสัญชาติถือเป็นใบเบิกทางสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในบางประเทศ  ถึงแม้ว่าจะยอมให้คนต่างสัญชาติมาลงทุนทำธุรกิจ แต่หนทางที่จะมุ่งไปสู่ความร่ำรวยมั่งคั่ง ก็กำหนดเอาไว้เฉพาะคนสัญชาติตนเท่านั้น

 

ภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง ที่ตัวเอกของเรื่องมีอาชีพเป็นสายลับ เรามักจะเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับการปลอมแปลงสัญชาติ หรือมีพาสปอร์ตหลายเล่ม เพื่อใช้ในการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ แต่ปัจจุบัน ไม่ใช่แค่เพียงสายลับเท่านั้น ที่ต้องการพาสปอร์ตหลายเล่ม แต่คนทั่วไป โดยเฉพาะนักธุรกิจ ก็มีความต้องการพาสปอร์ตหลายเล่มเช่นเดียวกัน

การมีพาสปอร์ตหลายเล่ม ก็ไม่ต่างอะไรกับการโยกย้ายเงินทุนไปลงทุนในสถานที่ต่างๆ เพราะสัญชาติจะถือเป็นใบเบิกทางสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในบางประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ สเปน มอลตา และเกรนาดา เนื่องจากประเทศเหล่านี้ มีกฎหมายกำหนดเอาไว้ว่า อนุญาตให้เฉพาะคนในประเทศของตนเท่านั้น ที่สามารถทำธุรกิจขนาดใหญ่ได้ แต่ถึงแม้ว่าจะยอมให้คนต่างสัญชาติมาลงทุนทำธุรกิจ แต่หนทางที่จะมุ่งไปสู่ความร่ำรวยมั่งคั่ง ก็กำหนดเอาไว้เฉพาะคนสัญชาติตนเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดธุรกิจซื้อ-ขายสัญชาติขึ้น แม้จะเกิดกระแสต่อต้านจากหลายฝ่าย ว่าสัญชาติเป็นสิ่งที่ไม่สมควรแก่การซื้อ-ขายก็ตาม โดยประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีการขายสัญชาติที่ถูกที่สุด คือประเทศเล็กๆในแถบแคริบเบียนอย่าง "ดอมินีกา" เพียงแค่คุณมีเงิน 100,000 ดอลลาร์ หรือราว 3,200,000 บาท บวกกับค่าธรรมเนียมอีกเล็กน้อย และการสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่โดยใช้เวลาไม่นานนัก คุณก็จะได้สัญชาติดอมินีกันมาครอบครอง

ข้อได้เปรียบของการถือสัญชาติดอมินีกันก็คือว่า ประเทศดอมินีกา เป็นส่วนหนึ่ง���องเครือจักรภพอังกฤษ ดังนั้น พาสปอร์ตดอมินีกา จึงได้เปรียบกว่าพาสปอร์ตของประเทศอื่นๆตรงที่เจ้าของ สามารถใช้เดินทางไปใน 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า และสามารถอาศัยในประเทศนั้นๆได้นาน 5 ถึง 14 เดือน นอกจากนี้ ยังได้สิทธิพิเศษบางประการ เมื่อเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรอีกด้วย แต่มีเงื่อนไขว่า ในแต่ละเดือน เจ้าของพาสปอร์ตจะต้องเดินทางมารายงานตัว และตอบคำถามเพียงเล็กน้อยต่อเจ้าหน้าที่ของดอมินีกัน เพียงเท่านี้ ก็สามารถครอบครองพาสปอร์ตได้ต่อ โดยไม่ต้องกังวล

แต่สำหรับใครที่อยากได้ใบเบิกทางในการทำธุรกิจในกลุ่มสหภาพยุโรป และมองว่าการได้สัญชาติใดสัญชาติหนึ่งในกลุ่มประเทศสมาชิกอียูเป็นสิ่งที่จำเป็น ขอให้พิจารณาที่ประเทศมอลตาเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากประเทศนี้ มีกฎหมายมอบสัญชาติให้กับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในมอลตาเป็นมูลค่า 650,000 ดอลลาร์ขึ้นไป หรือราว 21 ล้าน 2 แสนบาท ส่งผลให้มอลตาเป็นประเทศที่ถูกที่สุดในอียู ในการซื้อสัญชาติ

อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกอียูกดดันอย่างหนัก ทางการมอลตาจึงยอมแก้ไขกฎหมาย ด้วยการกำหนดให้ผู้ที่จะได้รับสัญชาติมอลตานั้น ต้องเป็นผู้ที่เข้ามาลงทุนในมอลตาอย่างต่ำ 1 ล้าน 1 แสน 5 หมื่นยูโร หรือราว 37 ล้าน 6 แสนบาท และต้องเป็นผู้ที่พักอาศัยในมอลตามาแล้วอย่างน้อย 1 ปี ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า นโยบายดังกล่าว ได้ทำให้คุณค่าของการถือสัญชาติโดยกำเนิดถูกลดทอนลงไปเป็นอย่างมาก

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog