ไม่พบผลการค้นหา
ไสยศาสตร์กลายเป็นหนึ่งในทางเลือก เพื่อใช้ในการค้นหาระฆังธรรมเจดีย์ เพราะชาวพม่าหลายคนเชื่อว่ามีวิญญาณคอยปกปักษ์รักษาระฆังใบนี้อยู่

นานกว่า 400 ปีแล้วที่ "ระฆังธรรมเจดีย์" ระฆังที่ถูกเชื่อว่าเป็นระฆังใบใหญ่ที่สุดในโลก จมลงสู่แม่นํ้าย่างกุ้ง ในบริเวณที่รู้จักกันดีในนามของสิเรียม แม้ปัจจุบันก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถค้นหาระฆังใบนี้ขึ้นมาได้ แต่มันกลับสร้างแรงจูงใจให้นักล่าสมบัติ นักโบราณคดีจำนวนมาก รวมทั้ง นักการเมืองท้องถิ่นของเมียนมาร์ ที่ต่างลงทุนลงแรงเพื่อค้นหาระฆังใบนี้อย่างไม่ลดละมาตลอด

เครื่องมือที่ทันสมัยจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น เครื่องวัดค่าแรงสั่นสะเทือน เรดาร์ใต้นํ้า หรือเครื่องโซนาร์ ถูกนำมาใช้เพื่อค้นหาระฆังธรรมเจดีย์ ทว่าอุปกรณ์เหล่านั้นที่บ่อยครั้งส่งสัญญาว่าพบวัตถุบางอย่าง ก็ไม่ทำให้นักประดานํ้าสามารถกู้ระฆังใบนี้ขึ้นมาได้เลย

ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว นายอูขิ่นชเว นักธุรกิจและนักการเมืองชาวพม่า สนับสนุนงบประมาณเพื่อค้นหาระฆังธรรมเจดีย์มากถึง 10 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งนับวันค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไร้วี่แววว่าจะพบระฆังใบนี้

ด้วยเหตุนี้ ไสยศาสตร์จึงกลายเป็นหนึ่งในทางเลือก เพื่อใช้ในการค้นหาระฆังธรรมเจดีย์ เพราะชาวพม่าหลายคนเชื่อว่ามีวิญญาณคอยปกปักษ์รักษาระฆังใบนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม ทางทีมค้นหากล่าวว่า พระผู้มีชื่อเสียงจากรัฐมอญเสนอให้ทีมค้นหาใช้ไสยศาสตร์ แต่ทางทีมไม่เชื่อว่าจะพบระฆังหากไม่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด เพราะสัญชาตญาณและประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกเอาไว้อย่างนั้น และจะไม่มีวันหยุดค้นหาระฆังอย่างแน่นอน

ระฆังธรรมเจดีย์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าธรรมเจดีย์ แห่งอาณาจักรมอญ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสงฆ์ที่เจดีย์ชเวดากอง ในนครย่างกุ้ง และในอีก 100 ปีต่อมา นายเกสเปโร บัลบี พ่อค้าอัญมณีชาวเวนิช ได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับระฆังธรรมเจดีย์ เมื่อเดินทางไปยังเจดีย์ชเวดากอง โดยเขารู้สึกตกตะลึงเพราะเป็นระฆังที่มีความสูงประมาณ 5 เมตรครึ่ง และกว้างเกือบ 4 เมตร

ในปี 2151 นายฟิลิปเป เดอ บริโต เอ นิโคเต ทหารรับจ้างชาวโปรตุเกส ได้ลักลอบขโมยระฆังใบนี้จากเจดีย์ชเวดากอง ไปยังฐานทัพบริเวณปากแม่นํ้าย่างกุ้ง แต่ด้วยความใหญ่และหนัก ทำให้ระฆังไถลลงจากเรือรบของโปรตุเกส และจมลงสู่ท้องแม่นํ้าย่างกุ้งในที่สุด

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog