วันวิสาขบูชาที่เรารู้จักกันดีในประเทศไทยนั้น ถูกเรียกว่าวัน Vesak ในสิงคโปร์ และ Wesak ในมาเลเซีย และถือเป็นวันหยุดราชการของทั้งสองประเทศนี้เช่นกัน
วันวิสาขบูชาที่เรารู้จักกันดีในประเทศไทยนั้น ถูกเรียกว่าวัน Vesak ในสิงคโปร์ และ Wesak ในมาเลเซีย และถือเป็นวันหยุดราชการของทั้งสองประเทศนี้เช่นกัน รวมทั้งมีการเฉลิมฉลองใน เนปาล ศรีลังกา ทิเบต ภูฐาน และ อินเดีย รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศอื่่นๆ ได้แก่ ไทย กัมพูชา ลาว พม่า และอินโดนิเชีย
วันVesak มีชื่อไม่เป็นทางการว่าวันเกิดพระพุทธเจ้า หรือ Buddha's Birthday ซึ่งจะฉลองกันในเดือนตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งก็มีการฉลองแตกต่างกันไปทั้งจากปฏิทินของพุทธศาสนา และของฮินดูในกรณีของอินเดีย และ เนปาล ขณะที่ในจีนและเกาหลีก็ใช้ปฏิทินพระจันทร์ของจีน
นอกเหนือจากความเข้าใจของเราว่าวันวิสาขบูชานั้นเป็นวันที่พระพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานแล้วและมีการฉลองกันในบ้านเรา เราควรรู้ว่า การฉลองวันวิสาขบูชาในระดับโลกนั้นเริ่มต้นขึ้นจากการตัดสินใจของที่ประชุมของพุทธศาสนานิกชนโลก (World Fellowship of Buddhists) ที่ศรีลังกา เมื่อ 1950 และนำไปสู่การรณรงค์ของชุมชนชาวพุทธในประเทศต่างๆ เช่น เนปาล และ สิงคโปร์เป็นต้น แม้ว่าแต่ละประเทศอาจจะไม่ได้ฉลองในวันเดียวกันก็ตาม อาทิในปี ๒๐๑๒ ในฮ่องกง และไต้หวัน ฉลองวันที่ ๒๘เมษา ศรีลังกา ๕ พ.ค.อินเดีย ๖ พ.ค.๒๘พ.ค.ในเกาหลีใต้ และ ๔ มิถุนา ในประเทศไทย
ขณะที่ในปีนี้ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ฉลองวันที่ ๑๓ พ.ค. อินเดีย และเนปาล วันที่ ๑๔ และ อินโดนิเซียวันที่ ๑๕ พ.ค.กล่าวโดยสรุป แต่ละประเทศฉลองไม่เหมือนกันเพราะปฏิทินจันทคตินั้นผูกโยงกับวัฒนธรรมของท้องถิ่นตัวเอง ในกรณีของสิงคโปร์นั้น นอกจากจะเป็นวันหยุดราชการแล้ว ยังมีการฉลองที่สำคัญคือการไปสวดมนต์ที่วัด และสรงน้ำพระพุทธรูป และแบ่งปันอาหารมังสวิรัติ และไปฟังเทศน์ รวมทั้งบริจาคโลหิต โดยเชื่อว่าการทำบุญในวันนี้จะได้บุญมากโดยในสิงคโปร์นั้นวันวิสาขบูชานั้นเริ่มเป็นวันหยุดราชการครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.๑๙๕๕ ขณะที่ในยุคแรกนั้นจะมีการฉลองวันวิสาขบูชาในหมู่ชุมชนชาวศรีลังกา และต่อมาเริ่มมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้จากสมาคมชาวพุทธ
ประเด็นที่เป็นที่สนใจในสิงคโปร์ก็คือ สำหรับชาวพุทธแล้วจะนิยมปล่อยนกปล่อยสัตว์ในวันนี้ในความหมายของการปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ในสมัยนี้เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องนิเวศน์วิทยาด้วย โดยการปล่อยสัตว์นี้ได้รับการห้ามปรามจากคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ (National Parks Board) และภาคีพุทธศาสนิกชน (Buddhist Fellowship)โดยให้เหตุผลว่าสัตว์เหล่านี้มักจะเป็นสัตว์ที่เชื่องและเมื่อถูกปล่อยไปก็อาจจะไม่มีชีวิตรอด เพราะว่าสัตว์เหล่านี้อาจจะเป็นสัตว์ที่ถูกนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง หรือการปล่อยสัตว์เหล่านี้อาจจะไปส่งผลต่อระบบนิเวศวิทยาของป่าที่มีอยู่ โดยอาจจะนำมาซึ่งไวรัสใหม่ หรือพยายามอยู่รอดโดยการแย่งชิงอาหารกับสัตว์ที่มีอยู่เดิมในระบบนิเวศน์