เบียร์สิงห์ของตระกูลภิรมย์ภักดี เทคโอเวอร์บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท รุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่านตลาดหุ้นไทย
เบียร์สิงห์ของตระกูลภิรมย์ภักดี เทคโอเวอร์บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) มูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท รุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่านตลาดหุ้นไทย
บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 550 ล้านบาท เป็น 4,712 ล้านบาท โดยจัดสรรหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงให้กับบริษัท สิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ และนาย สันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ราคาหุ้นละ 1 บาท 87 สตางค์
และรวมธุรกิจของ บริษัท เอสไบร์ทฟิวเจอร์ บริษัท สันติบุรี และบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ในเครือ รวมมูลค่าการเทกโอเวอร์ 7,783 ล้านบาท คาดว่าจะโอนกิจการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้
การที่กลุ่มเบียร์สิงห์ ตัดสินใจนำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นทางอ้อมผ่านการทำ backdoor listing แทนการขายหุ้นเพิ่มทุนกับประชาชน หรือ IPO ถือเป็นการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างจริงจัง
ปัจจุบันกลุ่มเบียร์สิงห์เป็นเจ้าของที่ดินย่านสามเสน และโรงงานต่างๆทั่วประเทศ และยังเป็นธุรกิจแรกของตระกูลภิรมย์ภักดี หรือ เบียร์สิงห์ ที่เข้าสู่ตลาดหุ้นไทย หลังก่อตั้งกิจการในไทยมากว่า 80 ปี
ก่อนหน้านี้ กลุ่มบุญรอดฯได้ประกาศผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ ว่า "ต้องการซื้อที่ดิน5 ไร่ขึ้นไป ติดถนนใหญ่ ในพื้นที่ดุสิต พญาไท บางซื่อ บางพลัด" เพื่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานของกลุ่มบุญรอดฯ เนื่องจากปัจจุบันสำนักงานใหญ่บนถนนสามเสน เริ่มมีความแออัด รวมทั้งพนักงานมีจำนวนมากขึ้น รวมทั้งที่ผ่านมามีการกว้านซื้อที่ดินของนายสันติ บนเขาหินเหล็กไฟ ในอำเภอหัวหิน จำนวนประมาณ 30 แปลง เนื้อที่รวม 300 ไร่
นอกจากนี้ ตระกูลภิรมย์ภักดี ยังชนะการประมูลที่ดินสถานทูตญี่ปุ่น แยกอโศก-เพชรบุรี ขนาด 9 ไร่เมื่อปี 2554 และมีแผนพัฒนาโครงการคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ แต่อยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการลงทุน
รวมทั้งได้ตั้งบริษัท เอสไบรท์ฟิวเจอร์ และ สิงห์ พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ โดยมีนายสันติ ภิรมย์ภักดี นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี และนายชญานิน เทพาคำ เป็นกรรมการ
เบียร์สิงห์ยังมีแผนจะนำธุรกิจอื่นๆ เช่น บริษัท บางกอกกล๊าส ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว เจ้าของสโมสรฟุตบอล และโรงแรม เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย ภายในปีนี้ (57) ซึ่งนายสันติ ระบุว่า ตระกูลภิรมย์ภักดี จะขยายธุรกิจนอกกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และธุรกิจโลจิสติกส์ อีกด้วย