การแข่งขันฟุตบอลมักเกิดปัญหาที่การตัดสินของกรรมการค้านกับสายตาคนดู ทำให้หลายคนเห็นว่า กรรมการไม่มีความเป็นธรรม เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
Innovation Update ประจำวันที่ 7 เมษายน 2557
การแข่งขันฟุตบอลมักเกิดปัญหาที่การตัดสินของกรรมการค้านกับสายตาคนดู ทำให้หลายคนเห็นว่า กรรมการไม่มีความเป็นธรรม เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า การยิงครั้งนั้นเป็นประตูหรือไม่ ฟีฟ่าจึงเตรียมใช้เทคโนโลยี "ฮอว์กอาย โกลไลน์" เพื่อช่วยให้การตัดสินแม่นยำขึ้น เทคโนโลยีนี้จะเป็นอย่างไร
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟีฟ่าเพิ่งให้บริษัท โกลคอนโทรล บริษัทวิเคราะห์ภาพแบบเรียลไทม์ในการแข่งขันกีฬาจากเยอรมนี เข้าไปติดตั้งอุปกรณ์ที่จะช่วยให้การตัดสินว่า การยิงในแต่ละครั้งเป็นประตูจริงหรือไม่ ในสนามแข่งขันฟุตบอลโลกที่บราซิลที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ โดยเทคโนโลยีนี้เรียกว่า "ฮอว์กอาย โกลไลน์" เพื่อให้การตัดสินให้ประตูเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากก่อนหน้า การตัดสินของกรรมการในการแข่งขันของฟีฟ่ามีข้อครหามากมาย
แม้ก่อนหน้านี้ ฟีฟ่าได้ทดลองใช้เทคโนโลยีโกลไลน์ครั้งแรกในการแข่งขัน "คอนเฟดเดอเรชัน คัพ" แล้วเมื่อปีที่ผ่านมา และเปิดเผยว่าผลการทดสอบนั้นเป็นที่น่าพึงพอใจทีเดียว แต่แฟนบอลหลายคนก็ยังไม่เข้าใจว่าเทคโนโลยีนี้ทำงานอย่างไร
"โกลไลน์" ใช้กล้องจับภาพความเร็วสูง 7 ตัว จับภาพจากมุมสูงรอบเขตประตูแต่ละฝั่ง รวมเป็น 14 ตัวต่อ 1 สนาม โดยกล้องแต่ละตัวจะมีขอบเขตการจับภาพเป็นรูปสามเหลี่ยมที่เหลื่อมกันอยู่ในแนวปากประตู จากนั้นกล้องเหล่านี้จะส่งข้อมูลภาพไปยังคอมพิวเตอร์ส่วนกลาง ที่ติดตั้งระบบ "ฮอว์กอาย" ไว้บันทึกและคำนวณทิศทางของลูกบอล ซึ่งใช้ในการตัดสินการแข่งขันเทนนิสและคริกเก็ต มาประยุกต์ใช้กับการแข่งขันฟุตบอล
หากกล้องตัวใดตัวหนึ่งสามารถจับภาพได้ว่า ลูกบอลผ่านเส้นประตูเข้ามาแล้ว คอมพิวเตอร์จะส่งสัญญาณให้นาฬิกาข้อมือของกรรมการสั่นเตือนภายใน 1 วินาที หลังจากที่ลูกบอลผ่านเส้นประตูเท่านั้น นอกจากนี้ ยังส่งสัญญาณภาพช่วงที่ลูกบอลเข้าประตูไปยังนาฬิกาข้อมือให้กรรมการดูอีกด้วย
แม้การยิงประตูส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูลที่ละเอียดแม่นยำนัก แต่เทคโนโลยีตัวนี้จะสามารถหยุดข้อโต้แย้งต่างๆได้ อย่างเช่น ประตูที่แฟรงก์ แลมพาร์ดยิงในการแข่งขันระหว่างอังกฤษกับเยอรมนี ในฟุตบอลโลกเมื่อปี 2553 แต่กรรมการตัดสินว่าลูกบอลไม่เข้าประตู แต่การวิเคราะห์หลังจากแมตช์นั้นชี้ว่า อังกฤษควรได้สกอร์จากประตูดังกล่าว ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ฟีฟ่าจึงพิจารณาให้เอาเทคโนโลยี "ฮอว์กอาย โกลไลน์" มาใช้ในที่สุด
