ชื่อของประเทศชิลี กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ทางตอนเหนือของประเทศ เราจะพาคุณผู้ชมไปรู้จักกับชิลีให้มากยิ่งขึ้น ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแปลกตา และยังค
Travel Marvel ประจำวันที่ 4 เมษายน 2557
ชื่อของประเทศชิลี กลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ทางตอนเหนือของประเทศ เราจะพาคุณผู้ชมไปรู้จักกับชิลีให้มากยิ่งขึ้น ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแปลกตา และยังคงความเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ จะมีที่ใดบ้างนั้น
ชิลีเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแปซิฟิก และถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาแอนดีส แม้ว่าชิลีจะเป็นประเทศที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก แต่เรื่องความยาวประเทศนี้กินขาดประเทศอื่นๆในโลก เพราะเป็นเจ้าของสถิติประเทศที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาวกว่า 4,300 กิโลเมตร แต่กว้างแค่เพียง 180 กิโลเมตรเท่านั้น จุดเด่นของชิลีนั้น อยู่ตรงที่ความหลากหลายของภูมิประเทศ ที่มีตั้งแต่ทะเลทรายที่จัดได้ว่าแห้งแล้งที่สุดในโลก ไปจนถึงธารน้ำแข็ง และฟยอร์ด นอกจากนี้ ก็ยังมีภูเขาไฟรายล้อมอีกหลายแห่ง สมกับเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ หรือ "ring of fire" ซึ่งเป็นเขตรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก ที่จะส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง
วันนี้เราจะพาคุณผู้ชมไปเที่ยวที่ชิลีกัน โดยได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในชิลีมาทั้งหมด 10 แห่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นไฮไลท์เด็ดของที่เที่ยวในชิลีทั้งนั้น เริ่มที่ Cerro San Cristóbal สถานที่แห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขาของกรุงซานติอาโก ซึ่งหากวันไหนที่อากาศดี เราจะสามารถเห็นวิวของยอดเขาแอนดีสได้จากตรงนี้เลยทีเดียว ด้านบนของเนินเขานั้นเป็นที่ตั้งของรูปปั้นพระแม่มารีขนาดใหญ่ ความสูงกว่า 22 เมตร แถมยังมีสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในกรุงซานติอาโกอยู่ด้วย ซึ่งใครที่สนใจจะขึ้นมาเยี่ยมชมความสวยงามของตัวเมืองชิลี ก็สามารถขึ้นมาได้โดยเคเบิลคาร์ รวมถึงรถรางที่มีให้บริการอยู่ตลอด แต่ถ้าใครที่รักการผจญภัย ก็สามารถเดินเท้า หรือปั่นจักรยานขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน
แห่งต่อมาคือธารน้ำแข็ง San Rafael หากใครที่ต้องการเดินทางมาเยี่ยมชมความสวยงามของธารน้ำแข็งแห่งนี้ ต้องมาที่อุทยานแห่งชาติ Laguna San Rafael ซึ่งการจะเข้าถึงธารน้ำแข็ง San Rafael มีเพียง 2 วิธี นั่นก็คือทางเรือและเครื่องบินเท่านั้น แต่ทางเรือจะได้เห็นความสวยงามของธารน้ำแข็งมากกว่า และบริเวณที่เรือสามารถเข้าถึงได้นั้น เรียกได้ว่าเป็นส่วนปลายสุดของธารน้ำแข็ง เนื่องจากต้นกำเนิดของธารน้ำแข็งแห่งนี้ อยู่ห่างออกไปอีก 15 กิโลเมตรเลยทีเดียว
จากธารน้ำแข็ง เราขอพามาอีกที่หนึ่งที่บรรยากาศแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว นั่นก็คือที่ Valle de la Luna ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลทรายอะตาคามา ภูมิประเทศอันแสนประหลาดตานี้ เกิดจากการกัดกร่อนของลม และน้ำท่วมมานานนับร้อยปี จนทำให้ตอนนี้ ไม่ต่างอะไรจากสภาพภูมิประเทศบนดวงจันทร์ จนเป็นที่มาของชื่อ Valle de la Luna หรือ หุบเขาแห่งดวงจันทร์นั่นเอง
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวคนใดที่มาพร้อมกับครอบครัว และต้องการการพักผ่อนแบบชิลๆสบายๆ พร้อมกับการทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ เช่น การเดินป่า พายเรือคายัก ขี่ม้า รวมถึงการเล่นสกีทั้งในน้ำและบนบก ก็สามารถเดินทางมาที่นี่ได้ ที่นี่คือเมืองปูกอน ตั้งอยู่ในเขต Lake District ที่ตั้งของเมืองนั้น เรียกได้ว่าดึงดูดนักท่องเที่ยวได้แบบสุดๆ เพราะด้านหน้าเป็นทะเลสาบและด้านหลังเป็นภูเขาไฟ ทำให้ภูมิประเทศที่นี่สวยงามแปลกตา นอกจากนี้ ใครที่ชื่นชอบการเดินป่า และแช่น้ำแร่จากธรรมชาติ ที่นี่ก็เหมาะเป็นอย่างยิ่ง มาที่นี่ที่เดียวเที่ยวคุ้มเลย
