ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประกาศทุบอาคารถนนเพลินจิต หลังเปิดใช้งานร่วม 30 ปี คาดจะก่อสร้างใหม่เสร็จในปี 2560
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประกาศทุบอาคารถนนเพลินจิต หลังเปิดใช้งานร่วม 30 ปี คาดจะก่อสร้างใหม่เสร็จในปี 2560 เพื่อรองรับการขยายงาน รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจแห่งใหม่ ของกลุ่ม "เพลินจิตซิตี้"
มิสเตอร์ โนริอากิ โกโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ธนาคารมีแผนก่อสร้างอาคารสำนักงานสูง 37 ชั้น บนพื้นที่เกือบ 3 ไร่ บริเวณหัวมุมสี่แยกถนนเพลินจิตตัดกับถนนวิทยุ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสาขาสำนักเพลินจิต เพื่อรองรับการขยายตัวของธนาคารในอนาคต และเป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และ มีพื้นที่รองรับน้ำขนาดใหญ่ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ใกล้เคียง มีความทันสมัยและดึงดูดความสนใจ อาคารใหม่แห่งนี้จะเริ่มก่อสร้างราวกลางปี 2558 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2560
ทั้งนี้ อาคารสำนักเพลินจิต ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นสำนักงานใหญ่ตั้งแต่ วันที่ 15 พฤษภาคม 2520 ก่อนย้ายสำนักงานใหญ่อยู่ที่ ถนนพระราม 3 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2540 นับเป็นอาคารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยตระกูลรัตนรักษ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารกรุงศรีอยุธยา และสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เนื่องจากที่ดินตั้งแต่อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ อาคารต้นสน จนถึงหัวมุมแยกเพลินจิตฝั่งธนาคารกรุงศรีอยุธยา ล้วนเป็นของตระกูลรัตนรักษ์ทั้งหมด
และก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้เป็น 1 ใน 5 พันธมิตรธุรกิจ แยกวิทยุ-เพลินจิตในนาม "กลุ่มเพลินจิตซิตี้" ซึ่งมี อาคารปาร์คเวนเชอร์ ของ ยูนิเวนเจอร์ ในเครือตระกูลสิริวัฒนภักดี , โครงการคอนโดโนเบิล ของ โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ , ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ของตระกูลจิราธิวัฒน์ และ โรงแรมปาร์คนายเลิศ ของตระกูล "สมบัติศิริ" จะร่วมกันพัฒนาให้เป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ หรือ "ซีบีดี-เซ็นทรัล บิสซิเนส ดิสทริก"
ส่วน "ธนิยะกรุ๊ป" เจ้าของอาคารธนิยะพลาซ่า สีลม มีที่ดินย่านนี้ขนาด 9 ไร่อยู่ตรงข้ามเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูซ อาทิ อาคารค้าปลีกสูง 7-8 ชั้น และสำนักงานสูง 30 ชั้น ซึ่งจะจับลูกค้าคนละกลุ่มกับเซ็นทรัล และอาคารเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ มูลค่าลงทุนระดับพันล้านบาท เนื่องจากเป็นที่ดินแปลงใหญ่ใจกลางเมือง