มือปืน ป๊อปคอร์น ให้การสารภาพ ว่าก่อเหตุยิงที่แยกหลักสี่จริง โดยเขาเป็นหนึ่งในการ์ดผู้ชุมนุม กปปส. จากเวทีแจ้งวัฒนะ
มือปืน ป๊อปคอร์น ให้การสารภาพ ว่าก่อเหตุยิงที่แยกหลักสี่จริง โดยเขาเป็นหนึ่งในการ์ดผู้ชุมนุมกปปส. จากเวทีแจ้งวัฒนะ ที่ถูกระดมกำลังมาวันเกิดเหตุ โดยก่อนเหตุ ได้รับการฝึกให้ใช้ปืน และรับการแจกอาวุธปืน จากหัวหน้าการ์ดผู้ชุมนุมแจ้งวัฒนะ
นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือมือปืนป๊อปคอร์น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนในเมืองไม่มีเหตุอันควร และฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉิน จากเหตุปะทะที่เเยกหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้ปืนเอ็ม16 ชนิดสั้นในเหตุการณ์ดังกล่าวจริง โดยได้รับการฝึก และใช้ปืนที่คลุมด้วยถุงป๊อปคอร์นจากหัวหน้า การ์ด กปปส ที่ใช้ชื่อว่า " เม่น " จากเวทีเเจ้งวัฒนะ และที่ผ่านมา เขาได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท จากการทำหน้าที่การ์ด ภายใต้ชื่อกลุ่มองค์ดำ และหลังเกิดเหตุ ก็หลบหนีไปกบดานที่จังหวัดสุราษฎร์ กับภรรยาของนายเม่น
นายวิวัฒน์ ยังสารภาพอีกว่า ในกลุ่มการ์ดที่เวทีเเจ้งวัฒนะ พบเห็นอาวุธสงคราม และในวันเกิดเหตุ ก็ถูกระดมกำลังมาที่แยกหลักสี่
ด้านพลตำรวจโทวินัย ทองสอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความรุนแรงการชุมนุม กล่าวว่า หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายวิวัฒน์ คนร้าย 1 ใน 4 ที่พนักงานสอบสวนยื่นหลักฐานขออนุมัติหมายจับ ก็ส่งชุดสืบตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค 1 แกะรอยจับกุม
ซึ่งหลังเกิดเหตุปะทะที่เเยกหลักสี่ ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจากคลิปวิดีโอและภาพถ่ายจากสื่อมวลชน ในการสืบสวนแกะรอย จนกระทั่งพบว่า มีผู้ใช้อาวุธปืนในเหตุการณ์ครั้งนี้ 21 คน และทราบชื่อที่แน่นอน 4 คน ซึ่งเป็นการ์ดกปปส.เวทีเเจ้งวัฒนะ จึงได้ขออนุมุติหมายจับต่อศาล
จากการตรวจประวัตินายวิวัฒน์ เคยถูกดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ข้อหาครอบครองยาเสพติด เมื่อปี 2554 และจากการสอบปากคำเบื้องต้น ยังไม่พบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีความเชื่อมโยงกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุม
แม้หลังเกิดเหตุคนร้ายจะหลบไปกบดานที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งพื้นที่ฐานเสียงของนายสุเทพ และขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายวิวัฒน์ ไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณแยกหลักสี่ ก่อนนำตัวไผฝากขังที่ศาลอาญาและคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุฉกรรจ์
ขณะเดี๋ยวกันชุดสืบสวน ได้ขยายผลกรณีอาวุธปืนที่นำมาใช้ก่อความรุนแรงครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาวุธสงคราม โดยจะนำข้อมูลมาสอบสวนหาความเชื่อมกับทุกเหตุการณ์ความรุนเเรงระหว่างการชุมนุม
